Page 95 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 95

ภาคเอกชนเป็นหน่วยรับแจ้งเหตุ กสม. จะทำงาน Pro-active มากขึ้น …
                                 สิ่งเหล่านี้กสม. สามารถขยายบทบาทงาน แล้วยืมคนของภาครัฐที่มี Core
                                 Value ตรงกันได้” (สนทนากลุ่มภายนอก, 26 มกราคม 2565)

                                      “…องค์กรสิทธิต่าง ๆ NGO หรือ CSO น่าจะเป็นเหมือนกับ
                                 อาสาสมัครของกสม. ไปในตัวเลย คือ สามารถรับเรื่องร้องเรียนได้เลย
                                 ชาวบ้านไม่ต้องขับรถมาซ้ำ ...มาวันนี้มาเจอองค์กรนี้ พรุ่งนี้ต้องนัดกสม.อีก
                                 รอบหนึ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทางในพื้นที่ … หากออกมาสัปดาห์ละ
                                 2-3 วันอาจกระทบต่อรายได้ของเขาซึ่งมันไม่ได้สูงอยู่แล้ว” (สนทนากลุ่ม
                                 ภายนอก,  26 มกราคม 2565)

                           การทำงานกับโรงเรียนกฎหมาย
                           หากต้องกสม.ต้องกการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายและสังคม กสม.จะต้องต้องทำงานเชิง
                    นโยบายแบบองค์รวม โดยเฉพาะในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งควรจะเริ่มตั้งแต่ต้นทาง จากโรงเรียน
                    ผลิตนักกฎหมาย อัยการ ผู้พิพากษา จากการสนทนากลุ่มและสัมภาษณ์เชิงลึก ชี้ให้เห็นว่ายังมี
                    ช่องว่างเรื่องความเข้าใจด้านสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรม และยังไม่เป็นองค์รวม

                                               “วิชาสิทธิมนุษยชน (ในคณะนิติศาสตร์) ไม่ใช่วิชาบังคับใน
                                 การสอบ จึงมีเด็กจำนวนหนึ่งที่ไม่สนใจ จึงทำให้เห็นว่ามันส่งผลให้ผู้
                                 พิพากษาจำนวนหนึ่งไม่ตระหนักว่าเรื่องพวกนี้เป็นหัวใจสำคัญ ความเป็น
                                 วิชาชีพและแวดวงอัยการ ตุลาการมีอิทธิพลสูงในการครอบงำ ซึ่งไม่ได้สนใจ
                                 เรื่องพวกนี้ ส่วนใหญ่จะเถียงกันว่าตัวบทเป็นอย่างไร เวลาสอบเข้าก็มีแนว
                                 คำถามแบบหนึ่งที่ไม่ได้มีเรื่องสิทธิมนุษยชน แวดวงนั้นจึงจะได้คนแบบหนึ่ง
                                 ไป เป็นปัญหาใหญ่มาก ยิ่งเป็นชาวบ้านเมื่อไปขึ้นศาลและได้รับการปฏิบัติ
                                 แบบนั้นก็มีความทุกข์ทนมาก  กสม. มีงานให้ทำเยอะแยะมากในเรื่อง
                                 กระบวนการยุติธรรม และคนใน กสม. รู้ดีว่ามีปัญหา แต่มันเป็นดินแดนที่
                                 แตะได้ยาก” (สัมภาษณ์ KI013,30 พฤศจิกายน 2564)

                                      “... กสม.จะทำงานเรื่องป่าชุมชน ชาวบ้าน ชนเผ่า แต่มันไม่ได้
                                 เชื่อมโยงกับเรื่องคดี  ป่าไม้ ที่ศาลทำอยู่ในมือ ต้นน้ำสู้เรื่องพรบ.ป่าชุมชน
                                 คนปลายน้ำไม่เห็นต้นน้ำ นี่คือ ปัญหา  ใหญ่ของระบบยุติธรรมในภาพรวม
                                 ทำอย่างไรให้เราเห็นสองเรื่องนี้ … อย่างเรื่องที่ดิน ถ้า  แบ่งไม่เป็นธรรม
                                 และมีการเลือกปฏิบัติ คนที่เป็นศาลไม่เข้าใจหรอก บุกรุกป่าแล้วต้องจำคุก
                                 เขาไม่ได้เห็นว่ามีปัญหาของการแบ่งป่า กระบวนการไม่ได้มององค์รวม”
                                 (สนทนากลุ่มภายนอก, 26 มกราคม 2565)

                                        “…สำคัญที่สุด อยากให้ทำงานกับ law school หรือเนติบัณฑิต
                                 สภาไว้ให้มาก ทำอย่างไรให้เรื่องสิทธิขึ้นพื้นฐานของประชาชน มันเป็นเรื่อง
                                 พื้นฐานที่กฎหมายหรือคนทำงานสิทธิต้องรู้ กลายเป็นว่าตอนนี้ law
                                 school หรือสถาบันวิชาชีพด้านยุติธรรม ไม่ได้ยินตรงนั้นเพียงพอ จะให้ศาล
                                 อัยการ หรือตำรวจก็อาจจะไม่ทัน ต้องย้อนลงไปตั้งแต่ law school และ
                                 ทำงานจริงจังมากขึ้น” (สนทนากลุ่มภายนอก, 26 มกราคม 2565)



                                                           -88-
   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100