Page 94 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 94
เคยมีคนตั้งข้อสังเกตว่า คณะกรรมการต่าง ๆ ที่เป็นองค์กรอิสระชุด
ที่ 1 จะดีที่สุด เพราะว่าเป็นชุดที่รัฐบาลหรือทางการ ยังไม่รู้ว่าเขาจะมี
บทบาทอะไร เพราะฉะนั้นก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้อย่าง
แท้จริง แต่พอหลังจากนั้นพอเขา (รัฐบาล) รู้แล้วอาจจะมีการเอาคนของ
ตัวเองเข้ามาหรือมีการแทรกแซงกระบวนการสรรหา …ซึ่งอาจไม่ได้เป็นไป
ตามเจตนา” (สนทนากลุ่มภายนอก, 26 มกราคม 2565)
ข้อเสนอสำคัญเรื่องการทำงานกับเครือข่าย
บทเรียนที่สำคัญของกสม. ในเรื่องการทำงานกับเครือข่าย คือ ความต่อเนื่องในการทำงาน
ภายในกสม.ที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือความสนใจของแต่ละกสม.ที่ขึ้นมาในแต่ละชุด นำมาสู่
ข้อเสนอสำคัญคือ การทำงานกับเครือข่ายในรูปแบบใหม่ ๆ ให้มากขึ้น การเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใน
การทำงานรวมถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีคิด (mindset) ในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสวงหา
ความร่วมมือจากองค์กรรัฐ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงในกระบวนการยุติธรรม การแสวงหาความร่วมมือ
กับภาคเอกชนต่าง ๆ เพื่อเข้ามารับเรื่องต่อจากกสม. หรือเพื่อส่งต่อเรื่องร้องเรียนให้กับกสม.
รวมถึงการมีข้อเสนอให้กสม. มีอาสาสมัครเพื่อลดกระบวนการที่ซ้ำซ้อนในการรับเรื่องร้องเรียน
และข้อเสนอเรื่องการทำงานกับคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น
“ กสม. ต้องเปลี่ยนความคิดว่าการทำงานของ กสม. ไม่ใช่แค่กับ
กรรมการ กับเจ้าหน้าที่ กสม. เท่านั้นถึงจะมีสิทธิทำงานเกี่ยวกับเรื่องสิทธิ
มนุษยชน กสม. ต้องกระจายงาน กระจายบทบาทให้ภาคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
ภาคีภาคประชาสังคม ไม่ว่าจะเป็นภาคีองค์กรสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเป็น
องค์กรด้านเด็ก ด้านสตรี ด้านชนเผ่า อะไรทำนองนี้ มีพื้นที่ในการให้เขาได้มี
การทำงานมากขึ้น” (สัมภาษณ์ KI024, 7 กุมภาพันธ์ 2565)
“แพลทฟอร์มการทำงานของกสม. เราสามารถสร้างได้ เช่น การ
แสวงหาความร่วมมือจากรัฐ เช่น องค์กรอัยการ … ซึ่ง Core value ข้อที่
3 คือ การคุ้มครองสิทธิประชาชน และเข้ากันได้กับ (Core Value) ของก
สม. … หนึ่งในความร่วมมือ อาจจะมีการให้ความรู้เรื่องสิทธิในกระบวนการ
ยุติธรรมกับอัยการ แล้วทำให้อัยการขยายบทบาทอำนาจตัวเอง (กสม.) ก็
จะได้บุคลากร ได้หน่วยงาน อำนาจรัฐเข้ามาช่วยกัน … ทำงานร่วมกันยิ่ง
นานเข้า มันจะมีพัฒนาการ มีความเข้าใจมากขึ้น… ดังนั้น ถ้ากสม.
แสวงหาความร่วมมือกับอัยการ เป็นหน่วยงานที่แจ้งเตือน (alert) ไปทาง
อัยการว่า ตอนนี้มันมีการขังโดยมิชอบ ให้อัยการร้องขอต่อศาลให้มีการ
ปล่อย เช่นนี้ ท่านก็สามารถได้งาน ได้คน ได้พลัง ได้ผลงาน เป็นการสร้าง
ความร่วมมือโดยที่ท่านไม่จำเป็นต้องไปแก้กฎหมาย หรือสร้างองค์กรตัวเอง
ให้ใหญ่โตอะไรมากขึ้น ……ประการต่อมา การแสวงหาความร่วมมือกับ
ภาคเอกชน ถ้าเราจะแสวงหาความร่วมมือกับทางฝ่าย NGO หรือองค์สิทธิ
ต่าง ๆ ท่าน (กสม.) ก็ให้องค์กรสิทธิเป็นหน่วยที่แจ้งเตือนแจ้งเหตุ (alert)
… ดังนั้น ถ้ากสม.มีการจัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ มีการรับแจ้งเหตุ เช่น
กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะมีการดูแล (monitor)
ทั่วประเทศ ตอนนี้เกิดเหตุอะไรขึ้น ก็แจ้งไปท้องที่ในจังหวัดนั้นว่า ตอนนี้มี
การละเมิดสิทธิเด็ก สิทธิผู้หญิง … ก็จะมีหน่วยรับแจ้งเหตุ ถ้าอาศัย
-87-