Page 46 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 46

อย่างเป็นทางการในปี 2491 หากแต่ในรัฐธรรมนูญไทยฉบับ พ.ศ. 2492 พบว่า ผู้ร่างได้นำเอา
                    หลักการซึ่งปรากฏอยู่ในบทบัญญัติต่าง ๆ ของปฏิญญาฯ มาบัญญัติไว้ในหมวด 3 ว่าด้วยสิทธิ
                    เสรีภาพของชนชาวไทย กระนั้นก็ไม่มีรัฐธรรนูญฉบับใดตั้งแต่นั้นมาจนถึงรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งเป็น
                    ฉบับปัจจุบันที่ใช้กันอยู่ที่จะอธิบายหรือระบุความหมายของคำว่า “สิทธิมนุษยชน” (นพนิธิ สุริยะ,
                    2559: 38-39) หากแต่มีการระบุคำว่า “สิทธิมนุษยชน” ไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
                    พุทธศักราช 2540 อย่างเป็นทางการฉบับแรกที่เป็นต้นเรื่องของการก่อตั้ง กสม. ซึ่งจะอภิปรายใน
                    บทต่อไปนั้น  ในที่นี้จะชี้ให้เห็นว่า บริบทเงื่อนไขทางการเมืองวัฒนธรรมสังคมมีส่วนสำคัญต่อ
                    พัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนในสังคมไทย

                         การเมือง
                         กล่าวถึงบริบททางการเมืองการปกครองระยะสั้นก่อนกำเนิดสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
                    (National Human Rights Commission) ในช่วงแรกของทศวรรษ 2530 บรรยากาศทางการเมือง
                    เต็มไปด้วยความตื่นตัวของภาคประชาชนค่อนข้างสูงมาก ด้วยเหตุที่เพิ่งได้มีโอกาสเลือกตั้งและได้
                    รัฐบาลที่เริ่มเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์โลกหลังสิ้นสุดสงครามเย็นที่ส่งให้

                    กระแสเสรีนิยมประชาธิปไตยเติบโตขึ้นทั่วโลก สำหรับสังคมไทยความต้องการประชาธิปไตยและการ
                    มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการบ้านเมืองเพื่อให้เกิดธรรมาภิบาลในการเมืองการปกครองกำลังเบ่ง
                    บาน ภายหลังจากที่สังคมอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ มานาน และในระบอบการ
                    ปกครองดังกล่าว สิทธิเสรีภาพอันเป็นพื้นฐานของสิทธิพลเมืองย่อมถูกจำกัด

                          ดังนั้น คณะรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งที่เรียกได้ว่า มีแนวโน้มเป็นประชาธิปไตยมาก
                    ขึ้น เมื่อสิ้นสุดการถือครองอำนาจของรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มาถึง 8 ปี 5 เดือน แม้ว่า
                    นายกรัฐมนตรีจะเคยรับราชการทหารมาก่อน ทว่าเป็นผู้นำรัฐบาลหัวก้าวหน้า ภายใต้การบริหารของ
                    พลเอกชาติชาย ชุณหวัณ นายกรัฐมนตรี มีการเปลี่ยนแปลงการบริหารงานและนโยบายหลาย
                    ประการโดยเฉพาะการเปิดประตูให้ประชาชนภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจกำหนด
                    นโยบายทางการเมืองและการพัฒนาประเทศซึ่งได้สร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ๆ หลายประการ
                    การเติบโตขึ้นของสิทธิ เสรีภาพ และบทบาทของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้อำนาจภาคส่วนอื่น ๆ ที่มิใช่
                    กองทัพ อยู่ภายใต้การจับตาของฝ่ายกองทัพเสมอมาด้วยหวาดระแวงว่าจะถูกทำให้สูญเสียอำนาจ
                    และผลประโยชน์ นักวิชาการทางรัฐศาสตร์ที่ทำงานติดตามใกล้ชิดทางการเมืองในขณะนั้น วิเคราะห์
                    ว่า ขณะที่รัฐบาลประชาธิปไตยกำลังเข้มแข็งขึ้น กองทัพขณะนั้นกลับมีความอ่อนแอ มีการขัดแย้ง
                    แตกแยกแบ่งสายกันภายใน และมาถึงจุดแตกหักทางการเมืองเมื่อพลเอกชาติชาย ชุณหวัณ ประกาศ

                    แต่งตั้ง พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก กำลังเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งทำให้พลเอก
                    สุนทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) วิตกว่า พลเอกอาทิตย์ จะเป็นผู้ที่มาปลดตน
                    ออกจากตำแหน่ง และนั่นเป็นจุดที่ทำให้เกิดการรัฐประหารที่นำโดยพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ รัฐบาล
                    ประชาธิปไตย โดยฝ่ายกองทัพเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 (บีบีซีไทย. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564)

                          รัฐประหารครั้งนั้นจุดชนวนการลุกฮือประท้วงต่อต้านการรัฐประหาร เรียกร้องการมีส่วนร่วม
                    ในการเมืองการปกครองขนานใหญ่อีกครั้งของภาคประชาชน (สมบูรณ์, 2539) และนำมาสู่การ
                    ละเมิดสิทธิพลเมืองที่ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายและสูญหายจำนวนมาก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันต่อมา
                    ว่า “เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ” ในอีกด้านหนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นหลักฐานที่ประจักษ์ชัดว่าหาก
                    ประชาชนไม่มีหลักประกันสิทธิ เสรีภาพ และไม่มีส่วนร่วมในการเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตย
                    ที่แท้จริง โอกาสที่จะถูกรัฐบาลและโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายทหารทำการละเมิดสิทธิเสรีภาพและการมี


                                                            -38-
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51