Page 42 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 42
มองว่าเป็นเพียง “เสือกระดาษ” และ ในส่วนของ กสม.ที่มีจำนวนน้อยไปไม่เพียงพอต่อการทำงาน
และไม่ควรจำกัดวุฒิการศึกษาของผู้ที่จะมาเป็น กสม. (เลิศพร, 2564: ง) ซึ่งในส่วนของผู้ที่จะมาเป็น
กสม. เลิศพรขยายความว่าในประเด็นความเหมาะสมของกระบวนการสรรหาและคุณสมบัติของ
กสม. ว่า ผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่ยังเห็นว่ามีความเหมาะสม แต่มีข้อสังเกตว่าที่มาของ กสม. ยังยึดโยง
กับประชาชนน้อย ข้อเสนอจากงานวิจัยของเลิศพร เสนอว่า ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพื่อทำให้
ประชาชนรู้สึกเข้าถึงได้ง่าย ต้องมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ของ กสม. ในการทำงาน ต้องทำงาน
ร่วมกับสื่อมวลชน สื่อสังคมออนไลน์ เพื่อเป็นช่องทางในการให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ด้าน
การปกป้องสิทธิมนุษยชน ต้องมีการนำเสนอผลงานการทำหน้าที่ของ กสม. ต่อสาธารณะในรอบปี
มีการให้ข้อมูลป้อนกลับกับประชาชน เพื่อช่วยทำให้ประชาชนเข้าใจกระบวนการทำงาน ตลอดจนเป็น
การสร้างความเชื่อมั่นให้กับ กสม. ต่อสาธารณะมากขึ้นการกำหนดกลไกการทำงานในระดับย่อยจาก
ส่วนกลางควรมีการกำหนดให้มีสำนักงาน กสม. ระดับจังหวัดหรือภูมิภาค เป็นหน่วยงานของตนเอง
ควรจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ เลิศพรยังเสนอว่า ต้องมีการคัดเลือกและ
พัฒนาบุคลากรในการทำงานระดับพื้นที่อย่างเข้าถึงและเข้าใจประชาชน (เลิศพร อุดมพงษ์, 2564:
ข) ในส่วนของข้อเสนอที่จะทำให้งานของ กสม. มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการปกป้องสิทธิประชาชน
คือ ข้อเสนอที่ว่าให้มีการแก้ไขปัญหาในเชิงโครงสร้างด้วยการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ กสม. มีความเป็น
อิสระและสามารถทำงานตรวจสอบอำนาจรัฐได้มากขึ้น หรือให้ข้อเสนอของ กสม. มีผลบังคับในทาง
ปฏิบัติซึ่งจะทำให้ กสม. สามารถปกป้องสิทธิประชาชนได้มากขึ้นตามไปด้วย (เลิศพร อุดมพงษ์,
2564: ง)
ข้อค้นพบและข้อเสนอจากงานวิจัยของเลิศพร ชี้ให้เห็น ประเด็นสำคัญเรื่องความคาดหวังต่อ
กสม. ในเรื่องอำนาจที่จะสามารถปกป้องสิทธิประชาชนได้มากกว่าที่เป็นอยู่ และชี้ให้เห็นช่องว่างใน
การทำงานของ กสม. ที่สำคัญในเรื่องของการสื่อสารกับสังคมไทยอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นการ
สื่อสารสองทาง คือ ให้ประชาชนสามารถสะท้อนกลับได้ด้วยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานปกป้อง
สิทธิของ กสม. ต่อประชาชน และในด้านการสื่อสารสร้างความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการแก้ไขปัญหา
การละเมิดสิทธิให้ประชาชนทราบ ตลอดจนการสื่อสารหลักการ แนวคิด และวิธีปฏิบัติด้านการเคารพ
สิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในฐานะที่เป็นองค์กรหลักด้านสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
2.วรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารเพื่อสร้างความรู้ความเข้าในเรื่องสิทธิมนุษยชน
กับสังคม
สำหรับการสะท้อนมุมมองของสังคมที่มีต่อ กสม. นอกจากจะพิจารณาจากงานวิจัยใน
ข้อ 1 แล้ว คณะผู้ศึกษา พบว่า การสื่อสารเพื่อสร้างความรับรู้ ความเข้าใจต่อสังคมทั้งในแง่ของ
บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ ตลอดจนผลการทำงานที่ผ่านมาของ กสม. เป็นช่องทางสำคัญ
และจำเป็นสำหรับสังคมปัจจุบันที่เทคโนโลยีการสื่อสารดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้น และจะเป็นช่องทาง
สำคัญที่จะช่วยให้การทำงานด้านการปกป้องคุ้มครอง และส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชนใน
สังคมไทยประสบผลสำเร็จไปด้วย หากว่า กสม. สามารถสื่อสารสร้างความตระหนักและก่อให้เกิด
การร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ในการเคารพ ปกป้อง ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนไปด้วยกัน อย่างไรก็ดี
เมื่อทำการสำรวจงานวิจัยพบว่า งานวิจัย หรือ งานวิชาการที่จะสามารถสะท้อนภาพลักษณ์การ
สื่อสารของ กสม. ยังมีน้อยมาก โดยพบเพียงงานของ บทบาทและกระบวนการสื่อสารทางการเมือง
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ: ศึกษากรณีการละเมิดสิทธิการเมืองในห้วงเวลาปี พ.ศ.
2552 - 2558 โดยวรรณธนพล หิรัญบูรณะ และ นันทนา นันทวโรภาส (2562) ซึ่งผลการวิจัยพบว่า
บริบททางการเมืองและปฏิกิริยาจากต่างประเทศในห้วงเวลาปี 2552 - 2558 ล้วนส่งผลต่อบทบาท
และกระบวนการสื่อสารทางการเมืองของ กสม. ในขณะที่กระบวนการสื่อสารของ กสม. ยังขาดแผน
-33-