Page 131 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 131
สำนักงานปรึกษากับประธานคณะแล้วดำเนินการได้เลย แล้วค่อยมารายงานใน
ภายหลัง ก็จะสั้นกระชับมากขึ้น สองคือในบางเรื่องร้องเรียนที่ผ่านมาที่ใช้เวลา
ทำงานนานหรือมีการขยายเวลาหลายครั้ง เราก็ได้เข้มงวดให้ขยายเวลาเท่าที่
จำเป็น สามคือบางเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ แต่สามารถดำเนินการอย่าง
อื่นได้แล้วคุ้มครองได้ดีกว่าและเร็วกว่าก็ให้ทำ จึงเกิดเป็นการประสานการ
คุ้มครอง ซึ่งโดยปกติที่ใช้การตรวจสอบจะมีระยะเวลาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6 เดือน
บางกรณีเป็นปี ซึ่งวิธีในการประสานการคุ้มครองทำโดยการยกหู บางทีทำ
หนังสือ บางทีประสาน แล้วมันแก้ไขปัญหาได้เลย เช่น ผู้ต้องขังที่ถูกขังอยู่แล้ว
ถูกอายัดตัวจากคดีอื่นด้วยข้อกล่าวหาอื่น มันทำให้คนนั้นไม่ได้สิทธิในการ
ลดหย่อนโทษ อภัยโทษ หรือสิทธิของผู้ต้องขังที่หายไป โดยสิ่งที่ผู้ต้องหา
เรียกร้องคือให้คดีที่จะอายัดตัวให้มาดำเนินการให้เร็วขึ้น ซึ่งสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติก็มีนโยบายว่าไม่ต้องรอให้คดีที่ได้รับโทษมันจบแล้วค่อยไปอายัด
สามารถทำไปได้เลย ตรงนี้เมื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ เราจะต้องแสวงหา
ข้อเท็จจริงจากผู้ร้อง ฟังคำชี้แจงจากหน่วยงาน มีการพิจารณา มีการจัดทำ
รายงานผลว่าละเมิดหรือไม่ แต่เมื่อใช้การประสานการคุ้มครอง พอเราดูเรื่องเรา
ก็เห็นแล้วว่าละเมิดหรือไม่ หรือกระทบสิทธิหรือไม่ บางกรณียังไม่ถึงเดือน
ตำรวจก็แจ้งมาแล้วว่าตกลงอัยการส่งฟ้องนะ และบางเรื่องมีการถอนฟ้องไป
แล้วแต่ไม่มีการถอนอายัด นี่ก็เป็นตัวอย่างรูปธรรมว่าน่าจะมีความรวดเร็วขึ้น”
(NKI001, 2 กุมภาพันธ์ 2565)
-125-