Page 126 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 126
กสม. จะต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน
สุ้มเสียงเสียใจ ก่นด่า รวมถึงความน้อยใจจากการที่กสม.ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน
ในบทเหลียวมองสองทศวรรษของกสม.นั้น นำมาซึ่งคำกล่าวหนักแน่นในสิ่งที่วงสนทนากลุ่มและการ
สัมภาษณ์อยากจะเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นที่สุดใน กสม. คือ การที่กสม.จะต้องดำรงอยู่อย่างเป็นที่พึ่งของ
ประชาชน อย่างน้อยที่สุดคือ การเป็นขอนไม้ให้ประชาชนได้เกาะกลางแม่น้ำ การทำให้ประชาชน
เข้าถึงได้ง่าย การทำให้สังคม และเครือข่ายทำงานร่วมกันหากเหตุการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชน
รวมไปถึงความปรารถนาที่จะเห็นกสม. เป็นเพื่อนกับสังคม
การเป็นที่พึ่งจะต้องเข้าถึงง่าย
“อยากให้หลุดจากการเป็นข้าราชการมากกว่าตอนที่ทำกิจกรรมกับเขาติดต่อไปหาเขา
(กสม.) ด้วยเป็นราชการมันจะมีอุปสรรค (barrier) บางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่ายากจังเลย ที่
จะติดต่อคนนั้น คนนี้ ซึ่งถามว่าอยากให้เขาทำเหมือนเอ็นจีโอไหม คืออาจจะไม่ต้องไปถึงเอ็นจี
โอก็ได้ แต่อยากให้สลัดภาพความเป็นข้าราชการออกไปเยอะ ๆ คือข้าราชการเรารู้อยู่แล้วว่า
ทำงานเช้า เย็น … มีความแอคทีฟมากขึ้น ทำงานเชิงลึก ลงไปในพื้นที่มากกว่า” (สัมภาษณ์
KI020, วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564)
หรือ กสม. อาจจะเป็นขอนไม้
“กสม.อาจเป็นขอนไม้ผุบ้างแต่ก็ยังมีอะไรให้เกาะ เขา (ประชาชน) ไปหา
หน่วยงานรัฐสิบแห่งแล้วก็ไม่มีคนช่วย มันอาจไม่ได้ดูยิ่งใหญ่ แต่สังคมไทยก็ควร
จะมี และต้องพัฒนาขึ้นไปเพื่อให้แก้ปัญหาได้ดีขึ้น” (IKI001, 7 กุมภาพันธ์
2565)
กสม. อยากเป็นเพื่อน
“เราอยากจะเป็นเพื่อนกับทุกกระทรวงทบวงกรม เราไม่อยากจะเป็น
ฝ่ายตรงข้าม เพราะเราต้องการที่จะเดินไปด้วยกัน บ้านเมืองนี้มันเป็นของเรา
ด้วยกันทุกคน บทบาทของคณะกรรมการสิทธิไม่ใช่การตั้งป้อมว่าเราจะต้องทำ
หน้าที่ตรวจสอบคนที่ละเมิดสิทธิอย่างเดียว … แต่เราจะต้องมองว่าหน่วยงาน
ราชการเขามีความยากลำบากในการทำงานเพราะว่าข้อจำกัดในเรื่องของระเบียบ
กับความไม่รู้ของคนทำงาน คนทำงานถูกฝึกให้อยู่ในกรอบ ไม่ค่อยได้ออกไปเจอ
ชาวบ้านในพื้นที่ ดังนั้นเราจึงเอื้อให้เขามีโอกาสที่จะไปลงพื้นที่ไปเจอของจริง ไป
ช่วยกันเปิดดูระเบียบนโยบายว่ามีข้อจำกัดอย่างไร เราจะหาช่องทางเสนอให้เกิด
การแก้ไขได้อย่างไร เพราะการมีระเบียบแบบนี้ข้าราชการก็ทำงานเหนื่อย และ
เขาก็ไม่อยากมาทำงานอย่างนี้ เพราะฉะนั้นทำอย่างไรที่เราจะให้เขาทำงานมี
ความสุขมากขึ้น และภาคภูมิใจในหน้าที่การงานของเขา ดังนั้นแล้วกรรมการ
สิทธิเนี่ยคือคนที่จะต้องพยายามเลือกเรื่องที่เราจะทำ เราจะไม่ทำครบหมดทุก
เรื่อง ” (สัมภาษณ์ KI003, 14 พฤศจิกายน 2564)
-120-