Page 128 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 128

กสม.จะต้องขับเคลื่อนเชิงนโยบาย
                                 “24 ปีที่ผ่าน (กสม.) เป็นกระจกบานเล็กๆ สะท้อนแสงอาทิตย์แห่ง
                          ปัญหาให้เข้าตารัฐบาล แก้ 2 อย่าง หนึ่งนโยบาย สองแก้กฏหมาย ทำได้ไหม …
                          เพราะองค์กร (กสม.) ไม่ใช่องค์กรแห่งอำนาจ องค์กรเราเป็นองค์กรสิทธิ
                          มนุษยชนเป็นองค์กรพัฒนา … สิ่งที่คุณเห็นคุณเป็นกระจกบานเล็กๆ ที่สะท้อน
                          ให้เข้าตากรรมการได้ไหม ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเผด็จการมาจากไหน เพราะการ
                          ทำงานทุกวันนี้ใช้มวลชน ใช้สาธารณะ ใช้ความรู้ของประชากรไทยทั้ง 70 ล้านไป
                          เขย่าตรงนั้น เหมือนปาก้อนหินลงไปในน้ำ  แล้วน้ำมันกระเพื่อม แต่เมื่อไรคุณปา
                          ก้อนหินลงไปในน้ำ น้ำไม่กระเพื่อมมีค่าเท่ากับศูนย์ (สัมภาษณ์ KI024 7
                          กุมภาพันธ์ 2565)

                          กสม. กับความกล้าหาญ
                          มักมีเสียงสะท้อนว่า การที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่แม้จะเป็นองค์กรอิสระ
                    ตามรัฐธรรมนูญ และมีพันธผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตามหลักการปารีส แต่การอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่
                    อาจจะไม่เอื้อให้การทำงานราบรื่นมากนัก โดยเฉพาะกฎเกณฑ์กติกากฎหมายหลักของประเทศ เช่น
                    กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 และ 2560 ที่ถูกตั้งข้อครหาเรื่องขาดความชอบธรรมและไม่ได้เป็น
                    ประชาธิปไตยเพราะเป็นการร่างโดยคณะรัฐประหาร อย่างไรก็ดี ในการเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว
                    ไม่ใช่เรื่องง่ายนักในการทำงานของกสม. ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนให้ข้อคิดเห็นที่พึงพิจารณา
                    อย่างสำคัญไว้ถึงความกล้าหาญทางจริยธรรม และความมั่นคงในหลักการสากลของกสม. ดังนี้ว่า

                                 “มีตัวอย่างนะอย่างกรรมการสิทธิของอินโดนีเซียชุดแรก ไม่ได้มีกฎหมาย
                          รองรับ ปี ค.ศ.1993 ตอนนั้นมีปัญหาเรื่องติมอร์ อินโดนีเซียเองก็ถูกประนามใน
                          ระดับประเทศมาก ประธานาธิบดีซูฮาโต ตั้งกรรมการสิทธิฯ ขึ้นมาและแต่งตั้งคนที่

                          เป็นกรรมการสิทธิ แต่กสม.อินโดนีเซียมีอิสระของตนเอง แม้ว่าจะถูกแต่งตั้งโดย
                          ประธานาธิบดีที่เป็นเผด็จการก็ตาม
                                 มันอยู่ที่คน จริง  ๆ ที่มาที่ไปก็เป็นอย่างหนึ่ง มันอยู่ที่ว่าคุณจะประพฤติ
                          อย่างไร กรรมการสิทธิฯ ของอินโดนีเซียเป็นที่ยอมรับมาก สามารถผลักดันกฎหมาย
                          จนต้องยอมรับว่ากรรมการสิทธิของอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในกรรมการสิทธิที่ดีที่สุด
                          … ทำไมเขาทำได้เริ่มต้นจากเผด็จการแท้ ๆ  ของเราเริ่มจากประชาธิปไตย
                          Devolution อย่างที่บอก” (KI012, 16 พฤศจิกายน 2564)

                                 “…เพราะฉะนั้นต้องกลับไปดูประเด็นเดิมว่ากฎหมายเราดีพอหรือ
                          สมควรหรือไม่ ถ้าดีพอสมควรแล้ว ผลการดำเนินงานของกสม.เป็นอย่างไร แต่
                          ถ้ากฎหมายไม่ดีเท่าไหร่ แต่กสม. อาจจะดีก็ได้ ลักษณะนี้มีตัวอย่างที่ประเทศ
                          อินโดนีเซีย กสม. ต้องมีความกล้า ต้องทำในสิ่งที่ไม่ได้เป็นไปตามรัฐ กสม.ต้อง
                          เป็นอิสระจากรัฐ เป็นอิสระจากประชาชน จากภาคประชาสังคม และจากทุก ๆ
                          คน” (สัมภาษณ์ KI011 18 พฤศจิกายน 2564)

                                 “กสม.ต้องยืนให้มั่นและเป็นหลักให้ได้ในเรื่องความเข้าใจเรื่องสิทธิ
                          มนุษยชน ต้องอธิบายให้ได้ว่าการกระทำไหนใช่หรือไม่ใช่ กล้าหาญในเรื่องการ
                          ท้วงติง กล้าหาญที่ถูกด่า กล้าที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ กล้าที่จะไม่ถูกใจคนอื่น” (
                          สัมภาษณ์ KI014, วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564)


                                                            -122-
   123   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133