Page 107 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 107
“ไม่มีความหวัง ไม่มีจนกว่าจะจัดการกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ ตั้งแต่
ปี 50 เป็นต้นมาก็ไม่ได้มีความหวัง ยิ่งในตอนนี้ตั้งแต่ปีค.ศ.2014 เป็นต้นมา
ความหวังเล็กๆ น้อยๆ หายไปหมดเลย มันไม่ได้เกิดจากความรู้สึกแต่เกิดจาก
การวิเคราะห์สถานการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” (สัมภาษณ์ KI012, 16
พฤศจิกายน 2564)
“อันดับแรกคือต้องแก้รัฐธรรมนูย 2560 ที่สร้างปัญหาให้กับกสม. ใน
เชิงแนวคิดภาพรวมและในพรป. 2560 อีกหลายข้อ แต่ที่มีปัญหามากที่สุด
คือ ข้อ 4 ที่ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง ข้อนี้แสดงให้เห็นว่า กสม. ไม่เป็นอิสระ และ
ไม่ได้มีหน้าที่ทำงานแทนรัฐบาลมิหนำซ้ำยังต้องตรวจสอบการทำงานของ
รัฐบาลด้วย ในพรป.ยังเขียนให้เลวร้ายลงไปอีกว่าบังคับให้รายงานประจำปี
ต้องรายงานว่าในหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญได้ทำอะไรบ้าง นี่คือการเชื่อมโยง
ความเพี้ยนไปด้วยกัน…” (สัมภาษณ์, KI004 12 พฤศจิกายน 2564)
“...นอกจากจากปรับปรุงเชิงระบบใหญ่ ๆ แล้ว ผมว่าจะต้องร่าง
รัฐธรรมนูญใหม่ …ถ้าโครงสร้างรัฐธรรมนูญเป็นแบบนี้ กสม. เป็นอย่างนี้
มีที่มาเป็นอย่างนี้ มันก็คงได้แบบนี้” (สนทนากลุ่มภายนอก, 26 มกราคม
2565)
“...อยากให้ยืนยันหน่อยว่า กสม.เองก็ต้องการร่างรัฐธรรมนุญ
ฉบับใหม่ที่จะร่วมร่างกับประชาชนเพื่อที่จะไม่เป็นเสือกระดาษอีกต่อไป อันนี้
ต้องยืนยันว่ากสม. จะสง่างามในกฎหมายได้ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเกิด
ที่ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่มาจากทหาร” (สนทนากลุ่มภายนอก, 26 มกราคม
2565)
“ข้อท้าทายของกสม.เองที่จะกล้าลุกขึ้นมาพูดหรือไม่ว่ากลไกเหล่านี้
มันทำให้เขาไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งต้องแสดงบท 2 บท คือบทในการ
active กับสาธารณะให้เกิดความเชื่อมั่นว่ากสม.จะเป็นองค์กรที่ดูแลเรื่องนี้
ได้จริง แต่อาจจะติดอะไรอยู่ ซึ่งเขาเองต้องพูดออกมา ถ้าสามารถทำสอง
ส่วนนี้ได้ พี่เชื่อว่าประชาชนจะเข้ามาร่วมกันขับเคลื่อน เพื่อให้ กสม.
เปลี่ยนแปลง … ถ้าคุณ (กสม.) ยังไม่แสดงบทบาทที่ทำให้ประชาชน
เชื่อมั่น และใครจะก้าวเข้ามายืนเคียงข้างคุณในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้
เอื้อต่อการทำงาน” (สัมภาษณ์ KI009, 21 พฤศจิกายน 2564)
เสียงสะท้อนต่อสำนักงาน
หากอ้างอิงตามบทบัญญัติตามกฎหมายแล้ว สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติจะมีหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ ฝ่ายธุรการ และสนับสนุนการทำงานของกรรมการสิทธิ
มนุษยชนแห่งชาติในทุกภารกิจ ซึ่งเปรียบเสมือนกับการเป็นทีมผู้ช่วยหรืออวัยวะที่มีส่วนสำคัญใน
การขับเคลื่อนงานของ กสม. ด้วย นั่นหมายความว่าสมรรถนะของสำนักงานฯ หรือศักยภาพของ
บุคลากรนั้นมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนงานสิทธิมนุษยชนของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ด้วยเช่นกัน ดังนั้นแล้ว เสียงสะท้อนหรือความคิดเห็นที่มีต่อสำนักงานฯ จึงมีความสำคัญต่อการ
-100-