Page 168 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย
P. 168

151



                              - แนวทางการบริหารจัดการน้้าเพื่อความยั่งยืน ได้แก่ การน้าเสนอข้อมูลความรู้ที่สามารถ
                       แก้ไขปัญหาการจัดการน้้าของแต่ละพื้นที่ โดยคณะหรือกลุ่มที่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้้า

                       เป็นกลไกหนึ่งที่เมื่อตั้งขึ้นแล้วจะต้องผลักดันให้ท้างานได้จริง และจะต้องมีกฎกติกาที่ยึดหลักธรรมาภิบาล

                       เช่น การน้าเอากฎชุมชนและกฎหมายมาผนวกกันเพื่อน้าไปสู่การเป็นกฎหมายท้องถิ่น
                              - ควรมีการศึกษา ค้นคว้า หรือวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการสร้างพื้นที่เก็บกักน้้า หรือ

                       ศึกษาเกี่ยวกับพื้นที่กักเก็บน้้าตามธรรมชาติว่าสามารถกักเก็บน้้าได้มากน้อยเพียงใด และช่วย

                       แก้ปัญหาเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้้าได้จริงหรือไม่ เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการใช้น้้า
                       และบริหารจัดการน้้าได้ในอนาคต อีกทั้งในการพัฒนาและอนุรักษ์แหล่งน้้าทั้ง 2 พื้นที่ลุ่มน้้าชีและลุ่ม

                       น้้าน่าน อาจจะท้าแบบคู่ขนานโดยศึกษาบริบทและวิธีการด้าเนินงานแต่ละพื้นที่แล้วสรุปเป็น

                       กรณีศึกษาต่อไป


                              โดยสรุปผลการส้ารวข้อมูลในพื้นที่ลุ่มน้้าชี จังหวัดชัยภูมิ และลุ่มน้้าน่าน จังหวัดน่าน พบว่า

                       ชุมชนทั้งสองลุ่มน้้าเป็นชุมชนเกษตรกรรมที่มีโครงสร้างทางสังคมที่แตกต่างจากชุมชนเกษตรกรรมใน
                       อดีต กล่าวคือครอบครัวเป็นครอบครัวเดี่ยวเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่โครงสร้างอายุที่มีผู้สูงวัยสัดส่วน

                       ใกล้เคียงกับวัยแรงงาน ดังนั้นแนวโน้มวัยแรงงานในภาคเกษตรก็ต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ในอนาคต

                       ทั้งนี้ แม้จะพบว่าคนส่วนใหญ่มีการศึกษาในระดับประถมศึกษาแต่ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าร้อยละ
                       70 มีความรู้ด้านสิทธิของชุมชนเป็นอย่างดี และมีทัศนคติต่อความขัดแย้งในเชิงบวกที่พร้อมจะ

                       แก้ปัญหาร่วมกับทุกฝ่าย ส่วนสถานการณ์ที่น้าไปสู่ความขัดแย้งปรากฏว่าเกิดขึ้นบ้าง แต่ได้หาทางออก

                       การแก้ปัญหาในเชิงสันติวิธีด้วยการส่งตัวแทนอย่างก้านันและผู้ใหญ่เข้าเจรจาให้กับชุมชน ส้าหรับ
                       ข้อเสนอแนะของชุมชนในพื้นที่จากการรับฟังความคิดเห็นที่ส้าคัญคือ การขาดแคลนน้้าในช่วงฤดูแล้ง

                       ที่ต้องการน้้าในการท้าการเกษตรกรรมและน้้าเพื่อการอุปโภค ขณะที่มีปัญหาน้้าท่วมในฤดูน้้าหลาก

                       ข้อเสนอแนะด้านการจัดการน้้าคือชุมชนเน้นการมีส่วนร่วมในการจัดการ และควรจะมีการจัดท้า
                       ระบบกักเก็บน้้าด้วยวิธีการที่ไม่ท้าลายระบบนิเวศ เช่น การท้าฝายชะลอน้้า การอนุรักษ์ป่าต้นน้้าตาม

                       คติความเชื่อของชุมชน เป็นต้น ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะได้น้าไปวิเคราะห์ประกอบการจัดท้าข้อเสนอเชิง

                       นโยบายต่อไป
   163   164   165   166   167   168   169   170   171   172   173