Page 164 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย
P. 164

147



                       การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการประชุมแบบออนไลน์ในส่วนกลาง
                       ควบคู่กับการประชุมเวทีในพื้นที่ทั้งสองเวทีไปพร้อมกัน ผลการประชุมสามารถสรุปประเด็นได้ดังนี้



                              5.3.1 สภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน  าพื นที่บริเวณลุ่มน  าชีและลุ่มน  าน่าน
                              ภาพรวมการบริหารจัดการทรัพยากรน้้าบริเวณชุมชนลุ่มน้้าชีและลุ่มน้้าน่าน มีแนวทางดังนี้

                              - สิทธิการใช้น้้า สิทธิการใช้น้้าของประชาชนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงเพียงการใช้น้้าประปา

                       แต่สิทธิการใช้แหล่งน้้าสาธารณะเพื่อการเกษตรยังมีน้อย และสิทธิการใช้น้้าของคนที่อยู่ปลายน้้ามี
                       สิทธิในการบริหารจัดการและใช้ประโยชน์จากน้้ามากกว่าคนที่อาศัยอยู่ต้นน้้า ที่ต้องด้าเนินการและ

                       บริหารจัดการเรื่องการใช้น้้าโดยกลุ่มคนในพื้นที่หรือชุมชน

                              - การบริหารจัดการน้้าของชุมชน การบริหารจัดการน้้าหรือการใช้น้้าของชุมชนในพื้นที่สูง
                       หรือคนบนดอยและชุมชนพื้นที่ราบยังไม่เป็นระบบและเป็นรูปธรรมเท่าที่ควร โดยชุมชนในพื้นที่สูง

                       ส่วนใหญ่ขาดเครื่องมือหรือสิ่งก่อสร้างสาธารณูปโภคเพื่ออ้านวยความสะดวก ดังนั้นคนพื้นที่สูงจะมี

                       การใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการน้าน้้ามาใช้ เช่น การต่อท่อน้้า แต่ไม่มีระบบการกรองน้้าหรือการฆ่า
                       เชื้อ ส่วนในด้านการเกษตรมีการใช้น้้าฝนเป็นหลัก แต่ไม่มีการกักเก็บน้้าและการกระจายน้้าที่เป็น

                       ระบบ ซึ่งปัจจุบันคนพื้นที่สูงได้มีการซื้อน้้าเพื่ออุปโภคและบริโภคกันมากขึ้น จึงควรต้องมีระบบการ

                       จัดเก็บน้้าในช่วงน้้าหลากเพื่อใช้ช่วงฤดูแล้ง หรือยามฝนทิ้งช่วง ส่วนการใช้น้้าของชุมชนพื้นที่ราบ
                       จะต้องวางแผนการกระจายน้้าที่มีประสิทธิภาพและลดต้นทุนให้ชาวบ้าน เช่น การใช้โซลาเซลล์ในการ

                       สูบน้้า ซึ่งจ้าเป็นต้องมีการศึกษากฎหมายให้รอบด้านอย่างเพียงพอ

                              - วัฒนธรรมการใช้น้้าของชุมชน ชุมชนบริเวณแถบลุ่มน้้าส่วนใหญ่มีวัฒนธรรมเรื่องของน้้า
                       และป่าค่อนข้างมาก เนื่องจากชุมชนศรัทธาและมีความเชื่อตามวิถีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา ดังนั้นการ

                       บริหารจัดการน้้าจึงมีการอิงกับวัฒนธรรมและความเชื่อของชุมชนด้วย เช่น ประเพณีการเลี้ยงผีฝาย

                       ทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่เป็นกลไกท้าให้คนในชุมชนมีความสัมพันธ์กัน โดยเมื่อเกิดปัญหาขึ้น
                       ก็จะมีกลไกเหล่านี้ในการจัดการน้้าตามวัฒนธรรมของชุมชน

                              - การผลักดันสิทธิของประชาชนในการบริหารจัดการน้้า องค์กรผู้ใช้น้้าได้มีการผลักดันการ

                       แก้ปัญหาเกี่ยวกับสิทธิของประชาชนในด้านการบริหารจัดการน้้า โดยเน้นการด้าเนินงานร่วมกัน
                       ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานเอกชน ซึ่งองค์กรดังกล่าวเกิดจากกฎหมายที่ต้องการให้

                       ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้้าและมีส่วนร่วมในการดูแลอนุรักษ์พื้นที่ต้นน้้า

                              - การให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้น้้าของชุมชนลุ่มน้้า ในชุมชนหรือในพื้นที่บริเวณลุ่มน้้ามีการใช้
                       ภูมิปัญญาชาวบ้านในการให้ความรู้ อาทิ การใช้น้้าอย่างมีประสิทธิภาพในการเพาะปลูกพืชและ

                       การเกษตร เช่น การค้านวณปริมาณใช้น้้าของพืชแต่ละชนิดต่อไร่แล้ววางระบบน้้าหยด การส่งเสริมให้
                       ปลูกพืชเศรษฐกิจที่ใช้น้้าน้อย เป็นต้น
   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168   169