Page 167 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย
P. 167
150
ประเด็นที่เกี่ยวกับการจัดเก็บค่าน้้าในผู้ใช้น้้าประเภท ซึ่งเดิมชุมชนมีความเชื่อในเรื่องน้้า 3 และ 1 2
ว่าเป็นทรัพยากรสาธารณะที่สามารถใช้ได้อยู่แล้ว โดยภาครัฐไม่ต้องเข้าไปควบคุม นอกจากนี้ ควรให้
ความรู้โดยการผสมผสานระหว่างความรู้ใหม่ เช่น ภาวะโลกร้อน กับกลไกเดิมของชุมชนในเรื่องการ
ฟื้นฟูรักษาพื้นที่ป่าต ้นน้้า และควรสร้างความตระหนักแก่ชุมชนในการอนุรักษ์แหล่งน้้า โดยการ
ด้าเนินการดังกล่าวจะต้องเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมกับชุมชนและมีกลไกการขับเคลื่อนโดยผู้แทน
ชุมชน
- สนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้้า ให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับองค์กร
และ หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดการปัญหาสิทธิการใช้น้้า เพื่อลดความขัดแย้งและ
ปัญหาการแย่งการใช้น้้าของประชาชน โดยประชาชนมีส่วนในการให้ข้อมูลกับภาครัฐ
- การบริหารจัดการน้้าควรมองทั้งระบบนิเวศ และยึดหลักการจัดการและการแก้ปัญหาแบบ
องค์รวม ไม่ควรมองเฉพาะเรื่อง “น้้า” แต่เพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาเกี่ยวกับการบริหารจัดการพื้นที่ป่า
การอนุรักษ์และฟื้นฟูดิน และการท้าการเกษตรมาเป็นปัจจัยส้าคัญในการบริหารจัดการด้วย
- สนับสนุนให้ชุมชนและเกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจที่ใช้น้้าน้อยหรือปลูกพืชระยะสั้น เช่น
มะม่วง ทุเรียน เงาะ ในพื้นที่หุบเขา และมีสภาพอากาศและพื้นที่เหมาะสม โดยเฉพาะผลผลิตมะม่วง
น้้าดอกไม้ ซึ่งสามารถส่งออกได้ เป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ต้นน้้า หรือน้าเทคโนโลยีมาใช้
เช่น ระบบน้้าหยด เพื่อช่วยลดปัญหาการใช้น้้าในภาคเกษตร รวมทั้งภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ควรให้การสนับสนุนในการให้ความรู้แก่ชุมชนเรื่องการปลูกพืชที่ใช้น้้าน้อย เพื่อช่วยบริหารจัดการ
ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้้าของภาคเกษตรกรรม
- น้าแนวทางการบริหารจัดการน้้าตามหลักการบริหารจัดการน้้าของ ร.9 “รักษาน้้าไว้ในดิน
รักษาดินให้อยู่กับที่” ซึ่งในช่วงน้้าหลากน้้าจะไหลทิ้งจากภูเขาตลอด ดังนั้นจึงควรมีการจัดการเก็บ
รักษาน้้า โดยการสร้างแหล่งเก็บกักน้้า หรือการท้าประปาภูเขา หรือสร้างนวัตกรรมเพื่อเก็บน้้าไว้ใต้ดิน
นอกจากนี้ ควรมีการกระจายน้้าบนภูเขา เช่น วิธีกาลักน้้า โดยการเก็บกักน้้าตามหนอง บึง ในชุมชน
เพื่อลดภาวะน้้าไหลหลาก
- ส่งเสริมวัฒนธรรมและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้้า เช่น ชุมชนทางภาคเหนือในการบริหาร
จัดการน้้าอย่างสันติวิธีควรอิงกับวัฒนธรรมของท้องถิ่น และการสื่อสารความรู้ต่าง ๆ ต้องสอดคล้อง
กับวัฒนธรรม ความเชื่อ หรือพิธีกรรมของชุมชนเพื่อการจัดการน้้าที่มีประสิทธิภาพ และอาจศึกษา
เปรียบเทียบการบริหารจัดการน้้าระหว่างพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับภาคเหนือ
- การแก้ปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้้า แนวทางการแก้ปัญหาความ
ขัดแย้งเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้้าและสิทธิการใช้น้้า ได้แก่ การบริหารโดยการใช้กฎระเบียบ การ
ใช้แนวทางในการอนุรักษ์ฟื้นฟู และการผลักดันแนวทางการบริการจัดการน้้าที่เน้นการมีส่วนร่วมทุก
ระดับสู่ระดับนโยบาย