Page 105 - คู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษา : ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
P. 105
คูมือการจัดการเรียนรูสิทธิมนุษยชนศึกษา • ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ขอเสนอแนะ
1. นักเรียนในชั้นเรียนบางคนอาจมีรูปแบบทางวัฒนธรรมที่แตกตางจากผูอื่น เชน มีภูมิลําเนา
อยูตางจังหวัด หรือนับถือศาสนาแตกตางจากผูอื่น อาจใหนักเรียนมาบอกเลาประสบการณที่ไดพบใหเพื่อน
ฟงได
2. เรื่องวัฒนธรรมเปนเรื่องละเอียดออน ครูอาจกําชับนักเรียนหรือสอนคุณธรรมจริยธรรมนักเรียน
ไปควบคูกัน เชน ไมควรลอเพื่อนที่เปนมุสลิมเรื่องไมรับประทานเนื้อหมู หรือลอเลียนเชื้อชาติและภูมิลําเนา
ของเพื่อน
3. ครูอาจมีประสบการณเรื่องความขัดแยงทางวัฒนธรรมที่พบเจอ มาเลาเสริมใหนักเรียน
ฟงได แตไมควรเลือกเรื่องที่มีความรุนแรง
อภิธานศัพท
วัฒนธรรม หมายถึง ความเจริญงอกงาม ซึ่งเปนผลจากระบบความสัมพันธระหวางมนุษยกับมนุษย
มนุษยกับสังคม และมนุษยกับธรรมชาติ จําแนกออกเปน 3 ดานคือ จิตใจ สังคม และวัตถุมีการสั่งสม
และสืบทอดจากคนรุนหนึ่งไปสูคนอีกรุนหนึ่ง จากสังคมหนึ่งไปสูอีกสังคมหนึ่งจนกลายเปนแบบแผนที่สามารถ
เรียนรูและกอใหเกิดผลิตกรรมและผลิตผล ทั้งที่เปนรูปธรรมและนามธรรม อันควรคาแกการวิจัย อนุรักษ
ฟนฟู ถายทอด เสริมสรางเอตทัคคะ และแลกเปลี่ยนเพื่อสรางดุลยภาพแหงความสัมพันธระหวางมนุษย
สังคม และธรรมชาติ ซึ่งจะชวยใหมนุษยสามารถดํารงชีวิตอยางมีสุข สันติสุข และอิสรภาพ อันเปนพื้นฐาน
แหงอารยธรรมของมนุษยชาติ
พหุวัฒนธรรม คือการสรางความเขาใจเกี่ยวกับสังคม การเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา
และประวัติศาสตรโดยใชโครงสรางของ กลุมชน (ethnicity) เชื้อชาติ (race) สถานะของครอบครัว
(socioeconomic status) เพศ (gender) ความสามารถพิเศษ (exceptionalities) ภาษา (language)
ศาสนา (religion) บทบาททางเพศ (sexual orientation) และพื้นที่ทางภูมิศาสตร(geographical area)”
สอดคลองกับ Mitchell and Salsbury (1999) ซึ่งอธิบายวา “การจัดการศึกษาตามแนวทาง
104