Page 399 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 399

ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ





                          กรณีผู้ร้องอ้ำงว่ำ โรงเรียนไม่ออกเอกสำรแสดงกำรจบหลักสูตรส�ำหรับนักเรียนที่ยังค้ำงค่ำบ�ำรุง
          กำรศึกษำ (ค�ำร้องที่ ๒๒๙/๒๕๕๕) กรณีนี้อำจพิจำรณำได้ว่ำเป็นกำรปฏิบัติแตกต่ำงกันระหว่ำงนักเรียนที่ผ่ำนเกณฑ์
          มีสิทธิจบกำรศึกษำเหมือนกัน แต่บำงคนที่ค้ำงช�ำระค่ำบ�ำรุงไม่ได้รับเอกสำรกำรจบ แต่เหตุ “ค้ำงช�ำระค่ำบ�ำรุง” ไม่

          เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติตำมกฎหมำยสิทธิมนุษยชน อย่ำงไรก็ตำม หำกมีข้อเท็จจริงว่ำ กำรไม่ออกเอกสำร
          จบหลักสูตรให้กับนักเรียนบำงคนมีควำมเกี่ยวข้องกับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติ เช่น ไม่ออกเอกสำรให้กับนักเรียนบำงเชื้อ
          ชำติ เช่นนี้อำจเป็นกำรเลือกปฏิบัติได้

                          กรณีผู้ร้องร้องว่ำถูกทำงโรงเรียนเรียกเก็บเงินค่ำเทอม คนละ ๒๗,๐๐๐ บำท หำกไม่จ่ำยทำง
          โรงเรียนให้ลำออก หรือจะคัดชื่อออกจำกโรงเรียน ซึ่งผู้ร้องอ้ำงว่ำไม่เป็นไปตำมกฎหมำยที่มีสิทธิเรียนฟรี ๑๒ ปี คณะ

          กรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติเห็นว่ำ กรณีนี้เป็นโรงเรียนทำงเลือกที่มีกำรสอนตำมหลักสูตรบูรณำกำร แตกต่ำงจำก
          โรงเรียนที่สังกัดภำยใต้กำรก�ำกับดูแลของคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน และมีสิทธิเรียกเก็บค่ำธรรมเนียมตำม
          กฎหมำยที่เกี่ยวข้อง จึงไม่ปรำกฏว่ำมีกำรละเมิดสิทธิมนุษยชน (รำยงำนผลกำรพิจำรณำ ที่ ๑๐๗๙/๒๕๕๘) กรณีนี้จะ

          เห็นได้ว่ำ กำรเรียกเก็บค่ำธรรมเนียมพิเศษมิได้เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติ เช่น เชื้อชำติ สีผิว ศำสนำ ฯลฯ
          นอกจำกนี้ยังอำจพิจำรณำได้ว่ำ โรงเรียนดังกล่ำวเรียกเก็บค่ำธรรมเนียมนั้นกับนักเรียนทุกคนจึงไม่เป็นกำรเลือกปฏิบัติ

          โดยตรง แต่มีประเด็นน่ำพิจำรณำว่ำว่ำหำกน�ำหลักกำรเลือกปฏิบัติโดยอ้อมมำพิจำรณำถึงผลกระทบ (Effect) แล้วจะมี
          นักเรียนบำงคนที่อยู่ในกลุ่มเกี่ยวข้องกับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติไม่สำมำรถเข้ำเรียนได้หรือไม่
                          กรณีกำรก�ำหนดเงื่อนไขกำรเข้ำศึกษำและก�ำหนดเงื่อนไขกำรพ้นสภำพกำรเป็นนักเรียนด้วยเหตุ

          “ควำมประพฤติ” คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติเห็นว่ำเป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อเด็ก (รำยงำนผล
          กำรตรวจสอบ ที่ ๘๖๕/๒๕๕๕) กรณีนี้คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติพิจำรณำตำมกฎหมำยเฉพำะ คือ พระรำช
          บัญญัติคุ้มครองเด็ก ซึ่งมิได้ก�ำหนดเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติไว้ จึงเป็นกำรพิจำรณำในกรอบที่กว้ำงกว่ำเหตุแห่งกำรเลือก

          ปฏิบัติตำมกฎหมำยสิทธิมนุษยชน
                          กรณีผู้ร้องอ้ำงว่ำถูกตัดสิทธิไม่ให้เข้ำร่วมสอบคัดเลือกบุคคลเข้ำเรียนในคณะแพทยศำสตร์
          เนื่องจำกขำดเอกสำรประกอบกำรสอบ เช่น ส่งรูปถ่ำยไม่ครบตำมจ�ำนวนที่ก�ำหนดในประกำศสอบ จะเห็นได้ว่ำเมื่อผู้ร้อง

          มิได้ปฏิบัติตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำรและเงื่อนไขดังกล่ำว กำรที่ผู้ร้องถูกตัดสิทธิเข้ำสอบจึงมิใช่เป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยไม่
          เป็นธรรม (ค�ำร้องที่ ๖๒๕/๒๕๕๓ และ ๖๓๑-๖๓๕/๒๕๕๓ รำยงำนผลกำรพิจำรณำ ที่ ๓๕๗-๓๖๒/๒๕๕๘) กรณีนี้จะ

          เห็นได้ว่ำ กำรก�ำหนดเงื่อนไขบำงอย่ำงนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติตำมกฎหมำยสิทธิมนุษยชน กล่ำวคือ
          ไม่ปรำกฏว่ำมีข้อเท็จจริงซึ่งแสดงถึงควำมเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับเหตุด้ำนเชื้อชำติ สีผิว ฯลฯ และมีกำรใช้บังคับกับ
          ทุกคนเหมือนกัน จึงไม่เป็นกำรเลือกปฏิบัติ

                         นอกจำกนี้ จำกกำรศึกษำคดีของศำลปกครอง พบว่ำมีหลำยกรณีที่ผู้ร้องอ้ำงว่ำถูกเลือกปฏิบัติที่
          เกี่ยวข้องกับมิติด้ำนกำรศึกษำ เช่น คดีหมำยเลขแดงที่ อ ๙๗๒/๒๕๕๖ คดีหมำยเลขด�ำที่ อ ๖๗๓/๒๕๕๒

                          กรณีผู้ฟ้องคดีสมัครเข้ำศึกษำคณะแพทยศำสตร์ไม่ผ่ำนกำรสัมภำษณ์ ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ำตนถูกเลือก
          ปฏิบัติ ศำลปกครองสูงสุดเห็นว่ำกรรมกำรทุกคนไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองกับผู้ฟ้องคดีมำก่อน จึงไม่มีมูลเหตุจูงใจที่จะ
          กลั่นแกล้งไม่รับผู้ฟ้องคดีเข้ำศึกษำ ส�ำหรับหลักเกณฑ์กำรประเมินผลกำรสอบสัมภำษณ์นั้น ปรำกฏตำมเอกสำร

          กำรสัมภำษณ์ว่ำ มีการก�าหนดลักษณะที่ไม่พึงประสงค์ เช่น “Overt Homosexuality” การแต่งตัว กิริยามารยาท
          ไม่เหมาะสม การควบคุมอารมณ์ไม่เหมาะสม ความไม่รับผิดชอบ ขาดมนุษยสัมพันธ์ ขาดความใฝ่รู้ อย่ำงไรก็ตำม จำกข้อ
          เท็จจริงในกำรพิจำรณำ ศำลปกครองรับฟังได้ว่ำ การตอบค�าถามตลอดจนกิริยาอาการของผู้ฟ้องคดีในการสอบสัมภาษณ์






                                                         398
   394   395   396   397   398   399   400   401   402   403   404