Page 398 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 398

กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ





                               กรณีแรก หำกมำตรกำรหรือนโยบำยดังกล่ำว ส่งผลให้เกิดกำรแบ่งแยก หรือแสดงว่ำมีเจตนำแบ่งแยก
               ก็จะเป็นกำรขัดต่อหลักควำมเท่ำเทียมกันตำมรัฐธรรมนูญ โดยนัยนี้จะเห็นได้ว่ำศำลพิจำรณำควำมเท่ำเทียมกันในเชิงสำระ
               (Substantive Equality) และในกำรพิจำรณำถึง “ผล” (Effect) นั้นก็สอดคล้องกับหลักกำรห้ำมเลือกปฏิบัติโดยอ้อม

                               กรณีที่สอง หำกมำตรกำรหรือนโยบำยดังกล่ำวไม่มีเจตนำหรือผลในกำรแบ่งแยก แต่มีวัตถุประสงค์
               เพื่อขจัดควำมไม่ควำมสมดุลระหว่ำงเชื้อชำติ สีผิว (Racial Imbalance) ก็ไม่ขัดต่อหลักควำมเท่ำเทียมกัน โดยนัยนี้
               จะเห็นได้ว่ำ มำตรกำรหรือนโยบำยดังกล่ำวมีลักษณะเป็นมำตรกำรยืนยันสิทธิเชิงบวก (Affirmative Action) นั่นเอง

                               นอกจำกเหตุในด้ำน “ถิ่นที่อยู่” ดังกล่ำวแล้ว ส�ำหรับประเด็นกำรเลือกปฏิบัติในมิติกำรศึกษำด้วยเหตุ
               แห่งกำรเลือกปฏิบัติอื่น ๆ โดยเฉพำะ เชื้อชำติ สัญชำติ นั้นพบว่ำ กฎหมำยไทยที่เป็นอยู่ได้วำงหลักเกณฑ์กำรคุ้มครอง

               ควำมเสมอภำคไว้ครอบคลุมแล้ว
                               ส�ำหรับกรณีการแบ่งแยกบุคคลด้วยเหตุแห่งเพศ ในมิติกำรศึกษำนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกำ
               แล้วพบว่ำ ในประเทศไทยก็มีสถำนศึกษำของรัฐที่รับบุคคลเฉพำะเพศ (Gender Segregated School) อยู่เป็นจ�ำนวน

               มำก ทั้งโรงเรียนชำยล้วน และโรงเรียนหญิงล้วน ซึ่งยังไม่ปรำกฏค�ำร้องหรือคดีในประเทศไทยที่ตัดสินประเด็นว่ำ โรงเรียน
               ชำยล้วนหรือหญิงล้วนนั้นเป็นกำรเลือกปฏิบัติและขัดต่อหลักควำมเท่ำเทียมกันหรือไม่ หำกพิจำรณำจำกหลักกำรตำม

               กฎหมำยเฉพำะที่กล่ำวมำจะเห็นได้ว่ำ กำรแบ่งแยกบุคคลด้วยเหตุแห่งเพศในมิติกำรศึกษำโดยหลักแล้วจะเป็นกำร
               ปฏิบัติที่แตกต่ำงกันระหว่ำงบุคคลด้วยเหตุแห่งเพศ นอกจำกนี้ หำกเปรียบเทียบกับกรณีในสหรัฐอเมริกำจะเห็นได้ว่ำ แม้
               ภำครัฐจะจัดให้มีโรงเรียนอื่น ๆ นอกจำกโรงเรียนเฉพำะเพศนั้น แต่เมื่อพิจำรณำถึงผล (Effect) แล้วยังอำจเป็นกำรเลือก

               ปฏิบัติต่อบุคคลได้เช่นกัน อย่ำงไรก็ตำม ต้องพิจำรณำต่อไปว่ำกำรจ�ำแนกโรงเรียนตำมเพศนั้นมีเหตุผลอันสมควรหรือไม่
               ซึ่งกฎหมำยไทยมิได้ก�ำหนดหลักเกณฑ์หรือแนวพิจำรณำไว้อย่ำงชัดแจ้ง แต่อำจน�ำหลักเกณฑ์และปัจจัยพิจำรณำที่ศำล
               สหรัฐอเมริกำวำงไว้มำประกอบเป็นแนวทำงพิจำรณำได้ กล่ำวคือ ศำลสหรัฐอเมริกำพิจำรณำว่ำกำรแบ่งแยกรับนักเรียน

               ตำมเพศหรือโรงเรียนเฉพำะเพศ ภำยใต้กรอบของหลัก “เหตุผลชอบด้วยกฎหมำย” (Legitimate Educational Policy)
               และ “ควำมสัมพันธ์อย่ำงมีนัยส�ำคัญและชอบธรรมระหว่ำงเป้ำหมำยและวิธีกำร” (Fair and Substantial Relationship
               between Means and Ends) ซึ่งอำจจ�ำแนกได้สองกรณี

                               กรณีแรก กำรรับนักเรียนแบ่งแยกตำมเพศของโรงเรียนเฉพำะเพศนั้น แสดงถึงเหตุผลอันชอบด้วย
               กฎหมำย โดยมีควำมสัมพันธ์ระหว่ำงเป้ำหมำยและวิธีกำร เช่น มีทฤษฎีทำงสังคมศำสตร์หรือวิทยำศำสตร์มำรองรับถึง

               เหตุผลในกำรแบ่งแยกโรงเรียนตำมเพศ กรณีนี้กำรแบ่งแยกโรงเรียนตำมเพศจะไม่ขัดต่อหลักควำมเท่ำเทียมกัน
                               กรณีที่สอง กำรรับนักเรียนแบ่งแยกตำมเพศของโรงเรียนเฉพำะเพศนั้น ปรำศจำกเหตุผลอันชอบ
               ด้วยกฎหมำย ไม่มีควำมสัมพันธ์ระหว่ำงเป้ำหมำยและวิธีกำร กรณีนี้กำรแบ่งแยกโรงเรียนตำมเพศจะขัดต่อหลักควำม

               เท่ำเทียมกัน
                               ด้วยเหตุนี้ หำกพิจำรณำตำมกรอบกฎหมำยไทยปัจจุบัน ประกอบกับแนวกำรวินิจฉัยของศำล

               สหรัฐอเมริกำดังกล่ำวข้ำงต้น จะเห็นได้ว่ำ กำรแบ่งแยกนักเรียนตำมเพศดังที่ปรำกฏจำกโรงเรียนของรัฐหลำยแห่งของ
               ไทยนั้น โดยหลักแล้วเป็นกำรปฏิบัติต่อบุคคลแตกต่ำงกันด้วยเหตุแห่งเพศ แต่ต้องพิจำรณำต่อไปว่ำมีเหตุผลอันสมควร
               หรือไม่ อย่ำงไร

                               นอกจำกกำรเลือกปฏิบัติในมิติกำรศึกษำที่เกี่ยวข้องกับกำรจ�ำแนกกลุ่มบุคคลด้วยเหตุถิ่นที่อยู่ เชื้อชำติ
               สัญชำติ เพศ แล้วยังอำจมีประเด็นเกี่ยวกับกำรเลือกปฏิบัติอื่น ๆ ในมิติกำรศึกษำ ดังจะเห็นได้จำกกำรศึกษำค�ำร้องต่อ
               คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ พบว่ำมีหลำยกรณีที่ผู้ร้องอ้ำงว่ำถูกเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับมิติด้ำนกำรศึกษำ เช่น






                                                               397
   393   394   395   396   397   398   399   400   401   402   403