Page 336 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 336
กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
261
ในคดี Stec and Others v. UK ผู้ยื่นค�ำร้องได้ท�ำกำรร้องเรียนถึงผลของควำมแตกต่ำงของกำรเกษียณอำยุ
ระหว่ำงผู้ชำยและผู้หญิง โดยแต่ละส่วนมีข้อเสียเปรียบของผลประโยชน์ที่แตกต่ำงซึ่งถูกก�ำหนดตำมอำยุเกษียณ ECHR
พบว่ำโดยหลักของกำรเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศอำจมีเหตุผลสมควรได้ในกรณีที่มี“เหตุผลที่มีน�้ำหนักเพียงพอ” ทั้งนี้
ศำลจะพิจำรณำให้รัฐมีขอบเขตกำรใช้ดุลพินิจโดยกว้ำงส�ำหรับมำตรกำรที่ใช้ในทำงเศรษฐกิจหรือกลยุทธ์ทำงสังคม
(a wide margin is usually allowed to the State under the [ECHR] when it comes to general measures
of economic or social strategy)
อย่ำงไรก็ตำม แม้ว่ำศำลจะยอมรับถึงกำรมีขอบเขตในกำรใช้ดุลพินิจของรัฐ แต่ส�ำหรับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติ
บำงอย่ำงเช่น เชื้อชำติ แล้ว ศำลให้น�้ำหนักกับกำรคุ้มครองผู้ถูกเลือกปฏิบัติ ดังจะเห็นได้จำก ในคดี Andrejeva v.
262
Latvia case ผู้ยื่นค�ำร้องเคยเป็นเมืองของสหภำพโซเวียตเก่ำแต่ได้รับสิทธิในกำรพ�ำนักอยู่อย่ำงถำวรในประเทศลัตเวีย
ตำมกฎหมำยภำยใน ได้จัดให้ผู้ยื่นค�ำร้องเป็นผู้ที่ท�ำงำนอยู่นอกประเทศลัตเวียในช่วงก่อนกำรประกำศอิสรภำพ (แม้ว่ำ
จะท�ำต�ำแหน่งเดิมซึ่งอยู่ภำยในอำณำเขตลัตเวียก่อนและหลังกำรเป็นอิสรภำพ) และในล�ำดับต่อมำกำรค�ำนวนเงินหลัง
เกษียณของผู้ร้องเป็นกำรค�ำนวนตำมพื้นฐำนของระยะเวลำที่ใช้ในกำรท�ำงำนต�ำแหน่งเดียวกันหลังกำรเป็นอิสรภำพ
ทั้งนี้ ประชำชนชำวลัตเวียซึ่งท�ำงำนในต�ำแหน่งเดียวกันมีสิทธิในกำรได้รับเงินหลังเกษียณตำมระยะเวลำทั้งหมดของ
กำรให้บริกำรรวมถึงกำรท�ำงำนในช่วงเวลำก่อนกำรเป็นอิสรภำพซึ่งแตกต่ำงไปจำกกำรค�ำนวนให้กับผู้ร้อง ทั้งนี้ ECHR
พบว่ำผู้ยื่นค�ำร้องอยู่ในสถำนกำรณ์ที่เทียบเท่ำกับกำรเป็นประชำชนชำวลัตเวียเนื่องจำกภำยใต้กฎหมำยแห่งชำตินั้น
เธอได้รับอนุญำตให้พ�ำนักอยู่ในลัตเวียอย่ำงถำวรในฐำนะของพลเมืองต่ำงเชื้อชำติ นอกจำกนั้นเธอยังเป็นผู้ที่มีส่วนร่วม
ในกำรจ่ำยภำษีซึ่งเธอต้องจ่ำยในอัตรำเดียวกับประชำชนชำวลัตเวีย ศำลอธิบำยว่ำ ควำมจ�ำเป็นที่จะต้องมีกำรปฏิบัติ
อย่ำงแตกต่ำงบนพื้นฐำนของเชื้อชำตินั้นจ�ำเป็นที่จะต้องมีเหตุผลอันส�ำคัญอย่ำงยิ่ง (very weighty reasons) แต่ในกรณี
นี้ไม่สำมำรถให้กำรปฏิบัติที่แตกต่ำงกันได้ แม้ว่ำจะยอมรับว่ำรัฐมี “ขอบเขตแห่งกำรใช้ดุลพินิจ” ในส่วนของนโยบำยกำร
คลังและสังคม แต่ในสถำนกำรณ์ของผู้ยื่นค�ำร้องนั้นถือได้ว่ำเธออยู่ในสถำนภำพที่ใกล้เคียงอย่ำงยิ่งในควำมเป็นพลเมือง
ของลัตเวีย ดังนั้นจึงถือว่ำกำรกระท�ำดังกล่ำวเป็นกำรเลือกปฏิบัติ
๔.๗.๑ หลัก “Margin of Appreciation” ในกรณีการเลือกปฏิบัติกับผู้ติดเชื้อ HIV
ตำมหลัก “Margin of appreciation” ดังกล่ำวมำแล้ว จะเห็นได้ว่ำ กฎหมำยหรือนโยบำยของรัฐ
ซึ่งมีลักษณะเป็นกำรเลือกปฏิบัติ อำจใช้บังคับได้โดยไม่ขัดต่อหลักกำรตำมอนุสัญญำแห่งยุโรปว่ำด้วยกำรคุ้มครองสิทธิ
มนุษยชนและเสรีภำพขั้นพื้นฐำน ทั้งนี้ หำกกรณีนั้น ขอบเขตกำรใช้ดุลพินิจของรัฐในกำรตรำกฎหมำยที่มีลักษณะเลือก
ปฏิบัติอยู่ภำยใต้ขอบเขตที่กว้ำง โดยขอบเขตที่กว้ำงนี้จะต้องพิจำรณำปัจจัยส�ำคัญ คือ ประโยชน์หรือสิ่งที่กฎหมำยนั้น
มุ่งคุ้มครองมีน�้ำหนักเพียงพอหรือไม่ โดยพิจำรณำประกอบกับลักษณะและสภำพของบุคคลที่ถูกเลือกปฏิบัติ ต่อไปนี้
จะได้พิจำรณำคดีตัวอย่ำงที่ศำลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปพิจำรณำกฎหมำยภำยในของรัฐที่เลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อ HIV
ในบริบทของกำรปรับใช้หลักกำร “Margin of appreciation”
261 From “ECHR, Stec and Others v. UK [GC]” (Nos. 65731/01 and 65900/01), 12 April 2006
262 From “ECHR, Andrejeva v. Latvia [GC]” (No. 55707/00), 18 February 2009
335