Page 332 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 332

กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ





                             ส�ำหรับกฎหมำยเฉพำะกรณีกำรเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ ก็มีหลักกำรเช่นกัน ดังจะเห็นได้จำก
               พระรำชบัญญัติควำมเท่ำเทียมระหว่ำงเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘ มำตรำ ๑๗ ซึ่งมีกำรก�ำหนดมำตรกำรยืนยันสิทธิเชิงบวกใน
                       250
               วรรคท้ำย
                             ตัวอย่ำงของมำตรกำรยืนยันสิทธิเชิงบวกตำมกฎหมำยเฉพำะอื่น เช่น พระรำชบัญญัติกำรป้องกัน
               และแก้ไขปัญหำกำรตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งอำจพิจำรณำได้ว่ำเป็นกฎหมำยที่ก�ำหนดมำตรกำรยืนยันสิทธิ
               เชิงบวก ส�ำหรับ “วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์” (บุคคลอำยุเกินสิบปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึงยี่สิบปีบริบูรณ์) โดยก�ำหนดให้มีมำตรกำร

               ส่งเสริมสนับสนุนต่ำง ๆ เช่น ฝึกอำชีพแก่วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ ประสำนงำนจัดหำงำน จัดหำครอบครัวทดแทนกรณีที่วัยรุ่น
                                                                    251
               ไม่สำมำรถเลี้ยงดูบุตรด้วยตนเองได้ จัดสวัสดิกำรสังคมด้ำนอื่น ๆ
                             ส�ำหรับในมิติของกำรจ้ำงแรงงำนนั้น มีคดีซึ่งมีประเด็นโต้แย้งว่ำ พระรำชบัญญัติคุ้มครองแรงงำน
               พ.ศ. ๒๕๔๑ มำตรำ ๑๒๐ มีหลักกำรที่เลือกปฏิบัติโดยให้สิทธิเฉพำะลูกจ้ำงฝ่ำยเดียวที่มีสิทธิยื่นค�ำขอให้คณะกรรมกำร
               สวัสดิกำรแรงงำนพิจำรณำวินิจฉัย และให้สิทธิแก่คณะกรรมกำรสวัสดิกำรแรงงำนเลือกปฏิบัติโดยอำศัยควำมแตกต่ำงใน

               สถำนะของนำยจ้ำงและลูกจ้ำงโดย ไม่ให้สิทธิใด ๆ แก่ฝ่ำยนำยจ้ำงและไม่ได้รับควำมเสมอกันในบทบัญญัติของกฎหมำย
               เท่ำกับฝ่ำยลูกจ้ำง แต่ศำลรัฐธรรมนูญพิจำรณำแล้วเห็นว่ำกฎหมำยดังกล่ำวเป็นกฎหมำยที่มีเจตนำรมณ์เพื่อคุ้มครอง

               ลูกจ้ำงผู้มีฐำนะที่ด้อยทำงเศรษฐกิจ...อีกทั้งยังเป็นกำรส่งเสริมให้ลูกจ้ำงสำมำรถใช้สิทธิและเสรีภำพเช่นเดียวกับ
               นำยจ้ำง ย่อมไม่ถือเป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม จึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มำตรำ ๒๙ และ ๓๐ (ค�ำ
               วินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ ๓๓/๒๕๔๘) จะเห็นได้ว่ำ หลักกำรหลำยอย่ำงตำมกฎหมำยคุ้มครองแรงงำนมีลักษณะปฏิบัติ

               ต่อลูกจ้ำงในเชิงให้สิทธิพิเศษ (Privilege) ซึ่งอำจมองได้ว่ำเป็นกำรปฏิบัติต่อลูกจ้ำงและนำยจ้ำงแตกต่ำงกัน ด้วยเหตุ
               สถำนะของบุคคลอันเป็นเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติ แต่ในอีกแง่หนึ่งจะเห็นได้ว่ำ หลักกำรต่ำง ๆ ตำมกฎหมำยคุ้มครอง
               แรงงำนมีลักษณะเป็นมำตรกำรยืนยันสิทธิเชิงบวกเพื่อคุ้มครองฝ่ำยลูกจ้ำงที่กฎหมำยเห็นว่ำอยู่ในสถำนะที่เสียเปรียบ

               เมื่อเปรียบเทียบกับฝ่ำยนำยจ้ำง


                             ส�ำหรับกรณีประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่ง จะเห็นได้ว่ำ กำรที่กฎหมำยให้สิทธิคู่ควำมขอ

                                         252
               ด�ำเนินคดีอย่ำงคนอนำถำได้นั้น  เป็นกฎหมำยที่ส่งผลให้เกิดกำรปฏิบัติต่อบุคคลแตกต่ำงกันด้วยเหตุแห่ง “สถำนะ
               ทำงเศรษฐกิจ” แต่ทั้งนี้ไม่เป็นกำรเลือกปฏิบัติเนื่องจำกอำจพิจำรณำได้ว่ำเป็นกฎหมำยที่มีลักษณะเป็นมำตรกำรยืนยัน

               สิทธิเชิงบวกเพื่อส่งเสริมให้บุคคลที่เสียเปรียบด้วยเหตุฐำนะทำงเศรษฐกิจได้มีโอกำสเข้ำถึงกำรด�ำเนินคดีอย่ำงเท่ำเทียม
               กันกับคู่ควำมอื่น ๆ





                      250   มำตรำ ๑๗ ก�ำหนดว่ำ

                                     กำรก�ำหนดนโยบำย กฎ ระเบียบ ประกำศ มำตรกำร โครงกำร หรือวิธีปฏิบัติ ของหน่วยงำนของรัฐ องค์กรเอกชน
               หรือบุคคลใดในลักษณะที่เป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ระหว่ำงเพศจะกระท�ำมิได้
                                    กำรด�ำเนินกำรตำมวรรคหนึ่ง  เพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสำมำรถใช้สิทธิและเสรีภำพ  ได้เช่นเดียวกับ
               บุคคลอื่น  หรือเพื่อคุ้มครองสวัสดิภำพและควำมปลอดภัย  หรือกำรปฏิบัติตำมหลักกำร  ทำงศำสนำ  หรือเพื่อควำมมั่นคงของประเทศ
               ย่อมไม่ถือเป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่ำงเพศ
                      251   พระรำชบัญญัติกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำกำรตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. ๒๕๕๙ มำตรำ ๙
                      252   ประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่ง มำตรำ ๑๕๖ และ ๑๕๖/๑





                                                               331
   327   328   329   330   331   332   333   334   335   336   337