Page 309 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 309
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
193
อย่ำงไรก็ตำม ในคดี Gosselin v. Quebec ซึ่งมีประเด็นพิจำรณำว่ำ กฎเกณฑ์เกี่ยวกับ
สวัสดิกำรที่ให้สิทธิแก่บุคคลแตกต่ำงกันด้วยเหตุแห่งอำยุนั้น ขัดต่อหลักควำมเท่ำเทียมกันตำมรัฐธรรมนูญ มำตรำ ๑๕
หรือไม่ โจทก์อ้ำงว่ำตนถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งอำยุ แต่ศำลเห็นว่ำกฎเกณฑ์ที่ให้เงินอุดหนุนแตกต่ำงกันระหว่ำง
บุคคลอำยุต�่ำกว่ำ ๓๐ และอำยุเกิน ๓๐ นั้นมิได้แสดงให้เห็นว่ำกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้รับกำรปฏิบัติในลักษณะที่เกียรติและ
ศักดิ์ศรีของควำมเป็นมนุษย์ถูกลดคุณค่ำลงเมื่อเทียบกับอีกกลุ่มหนึ่ง ดังนี้จะเห็นได้ว่ำ ในแง่หนึ่งกำรน�ำเอำปัจจัยอื่น ๆ
เช่น เกียรติและศักดิ์ศรีของควำมเป็นมนุษย์มำประกอบกำรพิจำรณำว่ำ กฎเกณฑ์หรือนโยบำยนั้นเลือกปฏิบัติอันขัดต่อ
หลักควำมเท่ำเทียมกันหรือไม่ เป็นกำรพิจำรณำหลักควำมเท่ำเทียมอย่ำงกว้ำงในกรอบแนวคิด ควำมไม่เท่ำเทียมกัน
เชิงระบบ (Systematic Inequality) แต่อีกนัยหนึ่ง กำรก�ำหนดให้โจทก์ต้องพิสูจน์แสดงให้เห็นควำมมีอยู่ของปัจจัยอื่น ๆ
ด้วยนั้น อำจเป็นภำระของฝ่ำยโจทก์เช่นกัน
แม้กำรน�ำปัจจัยอื่น ๆ เข้ำมำประกอบเพื่อบ่งชี้ว่ำมีควำมไม่เท่ำเทียมกันในเชิงสำระเกิดขึ้นอัน
เป็นกำรฝ่ำฝืนหลักควำมเท่ำเทียมกันตำมรัฐธรรมนูญ แต่ศำลก็ยอมรับว่ำกำรน�ำปัจจัยเกี่ยวกับเกียรติและศักดิ์ศรีของ
194
ควำมเป็นมนุษย์มำประกอบกำรบ่งชี้ดังกล่ำวนั้นอำจสร้ำงควำมยุ่งยำกขึ้น โดยเฉพำะส�ำหรับโจทก์ในกำรกล่ำวอ้ำง
195
เนื่องจำกเกียรติและศักดิ์ศรีของควำมเป็นมนุษย์ก็มีลักษณะเป็นนำมธรรมและอัตวิสัย
196
นอกจำกนี้ ในปี ๒๐๐๘ ศำลสูงสุดได้ตัดสินคดีส�ำคัญ คือ Canada in R. v. Kapp คดีนี้เกิด
ขึ้นจำกกำรอุทธรณ์ค�ำพิพำกษำของศำลมลรัฐ British Columbia ซึ่งมีประเด็นว่ำ กำรที่รัฐออกใบอนุญำตประมงให้กับ
กลุ่มชนพื้นเมืองบำงกลุ่มเป็นพิเศษนั้น เป็นกำรละเมิดต่อหลักควำมเท่ำเทียมกันและกำรห้ำมเลือกปฏิบัติตำมรัฐธรรมนูญ
แคนำดำ มำตรำ ๑๕ หรือไม่ ศำลสูงสุดตัดสินว่ำ กรณีนี้เป็นกำรปฏิบัติที่แตกต่ำงกัน (Distinction) ของโปรแกรมของ
รัฐบำล อันเกี่ยวข้องกับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติที่ระบุในรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เป็นกำรเลือกปฏิบัติตำมรัฐธรรมนูญ โดยศำล
ได้น�ำปัจจัย ๒ ประกำรมำประกอบกำรพิจำรณำ คือ วัตถุประสงค์ของโปรแกรม และกลุ่มบุคคลเป้ำหมำยของโปรแกรม
(Target Group) ซึ่งได้แก่บุคคลผู้เสียเปรียบหรือมีโอกำสด้อยกว่ำกลุ่มอื่น ศำลจึงเห็นว่ำโปรแกรมของรัฐบำลนั้นจึงมี
วัตถุประสงค์ที่ไม่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ เนื่องจำกส่งเสริมให้กลุ่มผู้เสียเปรียบได้มีโอกำสที่เท่ำเทียมกันบุคคลอื่น ๆ
จะเห็นได้ว่ำ ค�ำตัดสินของศำลข้ำงต้น สะท้อนให้เห็นว่ำ ศำลยอมรับหลักควำมเท่ำเทียมกัน
เชิงสำระ (Substantive Equality) เช่นเดียวกับคดี Andrews v. Law Society of British Columbia โดยตีควำมว่ำ
รัฐธรรมนูญครอบคลุมถึงกำรคุ้มครองบุคคลจำกนโยบำย กฎหมำย แนวปฏิบัติใด ๆ ซึ่งส่งผลกระทบก่อให้เกิดควำมไม่
เท่ำเทียมกัน (In Effect Create Inequality) โดยในกำรพิจำรณำดังกล่ำว ศำลมิได้พิจำรณำเฉพำะรูปแบบภำยนอกของ
กฎเกณฑ์ มำตรกำร หรือโปรแกรมที่พิพำทเท่ำนั้น แต่ยังน�ำเอำปัจจัยอื่น ๆ เช่น วัตถุประสงค์ของกฎเกณฑ์นั้นและผล
กระทบที่เกิดจำกกฎเกณฑ์นั้นมำประกอบ ทั้งนี้ เพื่อน�ำไปสู่ควำมเท่ำเทียมกันในเชิงสำระหรือในผลลัพธ์ที่มุ่งหมำย
ให้เกิดควำมเท่ำเทียมกันด้วยกำรค�ำนึงถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลด้วย
193 From “Gosselin v. Quebec 2002” [SCC] 84 ,Canadian Supreme Court
194 From “R v. Kapp 2008” SCC 41 ,Supreme Court of Canada
195 From “Ontario Human Rights Commission v. Simpsons-Sears Ltd [1985]” 2 SCR 53 ,Supreme Court of
Canada, para.21-22
196 From “Canada in R. v. Kapp” SCC 41, [2008] 2 S.C.R. 483, 294 D.L.R. (4 )
th
308