Page 291 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 291

ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ





          นอกจำกนี้ ในกรณีระเบียบกำรแต่งกำยเพื่อเข้ำรับพระรำชทำนปริญญำบัตร ซึ่งผู้ร้องอ้ำงว่ำกระทบเสรีภำพและเลือก
          ปฏิบัตินั้น (ค�ำร้องที่ ๕๖๗/๒๕๕๓ รำยงำนผลกำรพิจำรณำ ที่ ๒๙๘/๒๕๕๔) กฎระเบียบเช่นนี้หำกใช้บังคับกับทุกคน
          โดยหลักแล้วก็ไม่เป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยตรง แต่อำจเป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยอ้อมและเป็นกำรกระทบเสรีภำพในกำร

          แสดงออกทำงศำสนำ อย่ำงไรก็ตำม หำกมีกำรก�ำหนดระเบียบว่ำ สำมำรถแต่งกำยตำมหลักศำสนำได้โดยมีเงื่อนไขว่ำ
          ต้องยื่นค�ำร้องขออนุญำตก่อน ดังนี้ก็ยังไม่เป็นกำรจ�ำกัดเสรีภำพในกำรแสดงออกทำงศำสนำเพรำะยังเปิดช่องให้สำมำรถ
          ใช้เสรีภำพกำรแสดงออกได้



                       ๓. กรณีที่อาจคาบเกี่ยวระหว่างการเลือกปฏิบัติและการละเมิดสิทธิเสรีภาพทางการศึกษา

                         ค�ำร้องต่อคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติหลำยกรณี มีประเด็นเกี่ยวข้องกับกำรปฏิบัติต่อ
          นักเรียน นักศึกษำ ที่แตกต่ำงกัน อันเป็นกำรกระทบสิทธิเสรีภำพในกำรศึกษำ ซึ่งกำรปฏิบัติที่แตกต่ำงเหล่ำนั้น บำง
          กรณีก็ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติตำมกฎหมำยสิทธิมนุษยชน เช่น กรณีผู้ร้องได้ร้องเรียนว่ำบุตรชำยของ

          ผู้ร้องถูกสั่งพักกำรเรียนด้วยเหตุไม่เหมำะสมและไม่เป็นธรรมต่อบุตรผู้ร้อง กรณีเหตุแห่งกำรพักกำรเรียนเกี่ยวข้องกับ
          “พฤติกรรม” ของนักเรียน คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติเห็นว่ำ เป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อเด็ก

          (รำยงำนผลกำรตรวจสอบที่ ๘๖๕/๒๕๕๕) กรณีที่ผู้ร้องอ้ำงว่ำ นักเรียนที่เรียกร้องสิทธิกลับเข้ำศึกษำต่อโรงเรียนเดิม
          จ�ำนวน ๓๖ คน ถูกเลือกปฏิบัติ เช่น หนังสือเรียนที่ได้รับและกระบวนกำรเรียนกำรสอนก็แตกต่ำงจำกนักเรียนอื่น ๆ
          (ค�ำร้องที่ ๒๘๒/๒๕๕๕) กรณีผู้ร้องอ้ำงว่ำ โรงเรียนไม่ออกเอกสำรแสดงกำรจบหลักสูตรส�ำหรับนักเรียนที่ยังค้ำงค่ำ

          บ�ำรุงกำรศึกษำ (ค�ำร้องที่ ๒๒๙/๒๕๕๕) กรณีกล่ำวอ้ำงว่ำมีกำรเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับหลักเกณฑ์กำรรับสมัครนักเรียน
          เข้ำศึกษำต่อ (ค�ำร้อง ๕๗๓/๒๕๕๕ และ ๓๓/๒๕๕๖) กรณีเหล่ำนี้หำกปรำกฏข้อเท็จจริงว่ำกำรปฏิบัติที่แตกต่ำงกันเกี่ยวข้อง
          กับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติ เช่น เชื้อชำติ ศำสนำ เพศ ฯลฯ อำจจัดเป็นกำรเลือกปฏิบัติตำมกฎหมำยสิทธิมนุษยชนได้

          แต่หำกไม่เกี่ยวข้องก็จะต้องพิจำรณำว่ำกระทบสิทธิมนุษยชนในด้ำนอื่น โดยเฉพำะสิทธิเสรีภำพในกำรศึกษำที่รัฐธรรมนูญ
          คุ้มครองไว้หรือไม่
                         ส�ำหรับกรณีที่มีกำรร้องเรียนว่ำบุคลำกรทำงกำรศึกษำ เช่น ครู อำจำรย์ มีพฤติกรรมกระทบต่อสิทธิ

          ในเนื้อตัวร่ำงกำยของนักเรียน เช่น ค�ำร้องที่ ๕๔๔/๒๕๕๔ กรณีเช่นนี้ ในมิติของสิทธิมนุษยชนนั้น อำจมีควำมเกี่ยวข้อง
          ในหลำยกรณี เช่น หำกปรำกฏว่ำพฤติกรรมดังกล่ำวเกี่ยวเนื่องกับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติ เช่น เพศ อำจเข้ำข่ำยกำร

          เลือกปฏิบัติ โดยเฉพำะกรณีกำรคุกคำม (Harassment) รวมทั้งอำจเกี่ยวข้องกับ “สิทธิเด็ก” ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนอีก
          ประกำรหนึ่ง นอกจำกนี้ ยังอำจเกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนอื่นนอกจำกในมิติของกำรเลือกปฏิบัติ เช่น สิทธิส่วนบุคคล
          สิทธิในเนื้อตัวร่ำงกำย โดยอำจจัดอยู่ในกรณีที่ ๑ ดังกล่ำวข้ำงต้น



                       ๔. กรณีที่อาจคาบเกี่ยวระหว่างการเลือกปฏิบัติและการละเมิดสิทธิของบุคคลในกระบวนการยุติธรรม

                         จำกกำรศึกษำค�ำร้องต่อคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ พบว่ำ กรณีที่มีกำรร้องเรียนหลำยกรณี
          เกี่ยวข้องกับกำรที่ผู้ร้องอ้ำงว่ำไม่ได้รับควำมเป็นธรรมในกำรเรียกร้องเพื่อคุ้มครองสิทธิ หรือไม่ได้รับควำมเป็นธรรมใน
          กรณีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนกำรยุติธรรม เช่น

                          กรณีผู้ร้องอ้ำงว่ำ เด็กถูกล่วงละเมิดทำงเพศในโรงเรียน ผู้อ�ำนวยกำรโรงเรียนได้ทรำบเรื่องที่เกิดขึ้น
          แต่กลับไม่ด�ำเนินกำรแก้ไขปัญหำ ผู้ร้องและผู้ปกครองได้เข้ำร้องทุกข์ต่อพนักงำนสอบสวนแต่คดีไม่คืบหน้ำ จึงขอให้
          ตรวจสอบ (ค�ำร้องที่ ๑๓๑/๒๕๕๗)






                                                        290
   286   287   288   289   290   291   292   293   294   295   296