Page 282 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 282

กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ






                 เห็นว่ำ กฎหมำยดังกล่ำวตรำขึ้นเพื่อให้รัฐโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหำรำยได้จำกกำรจัดเก็บภำษีส�ำหรับ
                 ใช้จ่ำยในกำรบริหำรกิจกำรสำธำรณะตำมอ�ำนำจหน้ำที่ขององค์กร อันเป็นกิจกำรเพื่อสำธำรณประโยชน์ ภำษี
                 โรงเรือนและที่ดินเป็นภำษีอำกรอย่ำงหนึ่งตำมรัฐธรรมนูญ มำตรำ ๖๙ บุคคลมีหน้าที่เสียภาษีอากร กฎหมาย

                 ดังกล่าวจึงเป็นบทกฎหมายเฉพาะเพื่อการที่รัฐธรรมนูญก�าหนดและเท่าที่จ�าเป็น ไม่กระทบกระเทือนสาระส�าคัญ
                 แห่งสิทธิและเสรีภาพ มีผลใช้บังคับเป็นการทั่วไปมิได้มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดกรณีหนึ่งหรือบุคคลใด
                 บุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจง ใช้กับบุคคลโดยเสมอกันและให้ความคุ้มครองแก่บุคคลอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการเลือก

                 ปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นก�าเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ
                 สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม...กำรเรียกเก็บภำษีโรงเรือน
                 ที่ค้ำงช�ำระจำกผู้รับโอนที่ดินและโรงเรือนร่วมกับผู้โอนจึงไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มำตรำ ๒๙ และ ๓๐

                 (ค�ำวินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ ๔๑/๒๕๔๘) จะเห็นได้ว่ำ คดีนี้มีกำรอ้ำงว่ำกฎหมำยมีลักษณะเป็นกำรเลือก
                 ปฏิบัติด้วยเหตุที่กว้ำงกว่ำเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติตำมกฎหมำยสิทธิมนุษยชน โดยศำลในคดีนี้นอกจำก

                 จะให้เหตุผลว่ำกฎหมำยดังกล่ำวมีผลใช้บังคับกับทุกคนเท่ำเทียมกันแล้ว  ยังอธิบำยไว้อย่ำงชัดเจน
                 ว่ำไม่เกี่ยวข้องกับ “เหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติ” ตำมที่ก�ำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ นอกจำกนี้ หำกเปรียบเทียบ
                 คดีนี้กับค�ำวินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ ๔๑/๒๕๔๗ จะเห็นได้ว่ำกฎหมำยที่พิพำทมีเหตุผลเกี่ยวเนื่องกับกำรก�ำหนด

                 หน้ำที่แก่ประชำชนเกี่ยวกับภำษีซึ่งเป็นเหตุผลส�ำคัญอีกประกำรหนึ่งด้วย





                               กรณีกำรอ้ำงว่ำ กฎหมำยสร้ำงควำมไม่เท่ำเทียมกันและเป็นกำรเลือกปฏิบัติเนื่องจำกก�ำหนด
                 กระบวนกำรพิจำรณำควำมผิดทำงวินัยแตกต่ำงกันระหว่ำงข้ำรำชกำรบำงประเภท คดีนี้ผู้ร้องอ้ำงว่ำ พระรำชบัญญัติ

                 ประกอบรัฐธรรมนูญว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มำตรำ ๓๐ โดย
                 ได้ก�ำหนดกระบวนกำรพิจำรณำควำมผิดวินัยไว้เป็นพิเศษส�ำหรับผู้ด�ำรงต�ำแหน่งผู้พิพำกษำศำลยุติธรรม ตุลำกำร
                 ศำลปกครอง และพนักงำนอัยกำร ท�ำให้กำรพิจำรณำควำมผิดวินัยอยู่ในอ�ำนำจขององค์กรนั้นเอง ซึ่งแตกต่ำงจำก

                 ข้ำรำชกำรทั่วไปที่ต้องถูกพิจำรณำควำมผิดวินัยโดยคณะกรรมกำร ป.ป.ช. เป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
                 ศำลรัฐธรรมนูญน�ำปัจจัยเกี่ยวกับลักษณะเฉพำะของข้ำรำชกำรตุลำกำร อัยกำร ที่อยู่ภำยใต้หลักควำมเป็นอิสระตำม
                 ลักษณะของภำรกิจมำประกอบกำรพิจำรณำแล้ว วินิจฉัยว่ำกฎหมำยดังกล่ำวเป็นบทบัญญัติที่มีเจตนำรมณ์เพื่อให้

                 กำรด�ำเนินกำรทำงวินัยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำรบริหำรงำนบุคคลของข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม ข้ำรำชกำร
                 ตุลำกำรศำลปกครอง และข้ำรำชกำรอัยกำรมีควำมเป็นอิสระ ตำมลักษณะของภำรกิจดังที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

                 ซึ่งไม่มีลักษณะขัดต่อหลักควำมเสมอภำค หรือเป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ตำมรัฐธรรมนูญ มำตรำ
                 ๓๐ แต่อย่ำงใด” (ค�ำวินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ ๒๑/๒๕๕๖) คดีนี้จะเห็นได้ว่ำ กฎหมำยที่พิพำทมิได้มีลักษณะเป็นกำร
                 เลือกปฏิบัติด้วยเหตุต่ำง ๆ ของกำรเลือกปฏิบัติ แต่เป็นกรณีตัวอย่ำงของกำรที่ผู้ร้องอ้ำงว่ำมีกำรเลือกปฏิบัติด้วยเหตุ

                 ที่กว้ำงกว่ำเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติตำมกฎหมำยสิทธิมนุษยชน นอกจำกนี้ ในกำรน�ำหลัก “ลักษณะของภำรกิจ” ซึ่ง
                 เป็นลักษณะเฉพำะของงำนแต่ละประเภทมำพิจำรณำนั้น อำจเทียบได้กับกรณีของคุณสมบัติจ�ำเป็นเฉพำะของงำน

                 (Genuine Occupational Requirement) ซึ่งเป็นเหตุผลของกำรปฏิบัติต่อบุคคลแตกต่ำงกันได้









                                                               281
   277   278   279   280   281   282   283   284   285   286   287