Page 278 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 278
กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
ซึ่งไม่กระทบกระเทือนถึงสำระส�ำคัญแห่งสิทธิและเสรีภำพ มีผลใช้บังคับเป็นกำรทั่วไป และไม่มุ่งหมำยให้ใช้บังคับ
แก่กรณีใดกรณีหนึ่งหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นกำรเจำะจง และไม่เป็นกำรเลือกปฏิบัติตำมรัฐธรรมนูญ มำตรำ ๓๐
นอกจำกนี้ มีข้อสังเกตว่ำตำมรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๔๐ ยังมิได้ระบุถึง “ควำมพิกำร” ไว้เป็นเหตุหนึ่งตำมมำตรำ ๓๐
อย่ำงชัดแจ้ง (ค�ำวินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ ๑๖/๒๕๔๕)
# กรณีที่มีกำรอ้ำงว่ำ พระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรฝ่ำยอัยกำร พ.ศ. ๒๕๒๑ มำตรำ ๓๓
(๑๑) ที่ก�ำหนดคุณสมบัติผู้สมัครเข้ำรับกำรคัดเลือกว่ำ “ไม่เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ หรือคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ
หรือจิตฟันเฟือนไม่สมประกอบ หรือมีกำยหรือจิตใจไม่เหมำะสมที่จะเป็นข้ำรำชกำรอัยกำร หรือเป็นโรคที่ระบุไว้
ในกฎกระทรวง…” นั้น เป็นกำรเลือกปฏิบัติอันขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๔๐ กรณีนี้เห็นได้ว่ำเกี่ยวข้อง
กับเหตุแห่งกำรเลือกปฏิบัติ คือ “ควำมพิกำร” แต่ศำลน�ำข้อยกเว้นตำมรัฐธรรมนูญมำวินิจฉัยว่ำ บทบัญญัติของ
พระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรฝ่ำยอัยกำร พ.ศ. ๒๕๒๑ มำตรำ ๓๓ (๑๑) เป็นไปตำมควำมจ�ำเป็นและควำม
เหมำะสมของฝ่ำยอัยกำร เป็นลักษณะตำมข้อยกเว้นของรัฐธรรมนูญ มำตรำ ๒๙ ซึ่งไม่กระทบกระเทือนถึงสำระ
ส�ำคัญแห่งสิทธิและเสรีภำพ มีผลใช้บังคับเป็นกำรทั่วไปและไม่มุ่งหมำยให้ใช้บังคับแก่กรณีใดกรณีหนึ่งหรือแก่บุคคล
ใดบุคคลหนึ่งเป็นกำรเจำะจง และไม่เป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ตำมรัฐธรรมนูญ มำตรำ ๓๐ (ค�ำวินิจฉัย
ศำลรัฐธรรมนูญที่ ๔๔/๒๕๔๕)
# กรณีที่มีกำรอ้ำงว่ำ บทบัญญัติของพระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม
พ.ศ. ๒๕๔๓ มำตรำ ๒๖ (๑๐) ที่ก�ำหนดคุณสมบัติผู้สมัครเข้ำรับกำรคัดเลือกไว้ว่ำ “(๑๐) ไม่เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ
คนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ คนวิกลจริต หรือจิตฟันเฟือนไม่สมประกอบ หรือมีกำยหรือจิตใจไม่เหมำะสมที่จะเป็น
ข้ำรำชกำรตุลำกำร หรือเป็นโรคที่ระบุไว้ในระเบียบของ ก.ต” นั้น ผู้ร้องเห็นว่ำ กำรตัดสิทธิสอบของบุคคลด้วยเหตุผล
ดังกล่ำว ถือเป็นกำรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมเพรำะเหตุแห่งควำมแตกต่ำงในเรื่องสภำพทำงกำยหรือควำมพิกำร
บทบัญญัติแห่งกฎหมำยดังกล่ำวจึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๕๐ มำตรำ ๓๐
ศำลรัฐธรรมนูญพิจำรณำลักษณะสภำพของงำนแล้วเห็นว่ำ ควำมพิกำรมิได้เป็นอุปสรรคต่อกำรปฏิบัติหน้ำที่ของ
ผู้จะเป็นข้ำรำชกำรตุลำกำร ที่จะมีผลต่อกำรให้ควำมเป็นธรรมแก่คู่ควำมหรือผู้เกี่ยวข้อง พระรำชบัญญัติระเบียบ
ข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ มำตรำ ๒๖ วรรคหนึ่ง (๑๐) ในส่วนที่บัญญัติให้ผู้สมัครสอบคัด
เลือกเพื่อบรรจุเป็นข้ำรำชกำรตุลำกำรต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ำมว่ำ “มีกำยหรือจิตใจไม่เหมำะสมที่
จะเป็นข้ำรำชกำรตุลำกำร” จึงขัดต่อสิทธิของคนพิกำรในกำรเข้ำท�ำงำนบนพื้นฐำนที่เท่ำเทียมกับบุคคลทั่วไปตำม
อนุสัญญำว่ำด้วยสิทธิคนพิกำรของสหประชำชำติ และเป็นกำรเลือกปฏิบัติต่อบุคคลโดยไม่เป็นธรรมเพรำะเหตุแห่ง
ควำมแตกต่ำงในเรื่องควำมพิกำร ตำมรัฐธรรมนูญ มำตรำ ๓๐ วรรคสำม (ค�ำวินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ ๑๕/๒๕๕๕)
จะเห็นได้ว่ำ ค�ำวินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ ๑๕/๒๕๕๕ นี้มีประเด็นส�ำคัญเช่นเดียวกับค�ำวินิจฉัย
ศำลรัฐธรรมนูญที่ ๑๖/๒๕๔๕ และค�ำวินิจฉัยศำลรัฐธรรมนูญที่ ๔๔/๒๕๔๕ กล่ำวคือ กฎหมำยก�ำหนดคุณสมบัติ
ผู้สมัครเข้ำรับรำชกำรแตกต่ำงกันด้วยเหตุสภำพร่ำงกำยโดยเฉพำะกรณีของควำมพิกำร ซึ่งจัดอยู่ในเหตุแห่งกำรเลือก
ปฏิบัติตำมกฎหมำยสิทธิมนุษยชน อย่ำงไรก็ตำม สองคดีแรกเป็นกำรพิจำรณำตำมรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๔๐ ซึ่งมิได้
ระบุ “ควำมพิกำร” ไว้อย่ำงชัดเจน ในขณะที่คดีหลังนั้นตัดสินตำมรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๕๐ ซึ่งระบุ “ควำมพิกำร” ไว้
อย่ำงชัดเจน ทั้งนี้ เนื่องจำกประเทศไทย ได้ให้สัตยำบันอนุสัญญำว่ำด้วยสิทธิคนพิกำร (Convention on the Rights of
Persons with Disabilities : CRPD) ของสหประชำชำติ เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎำคม ๒๕๕๑ ซึ่งมีผลบังคับให้ประเทศไทย
277