Page 77 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 77

รายงานการศึกษาวิจัย
                   โครงการการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน


                  จัดการประชุมเพื่อพิจารณาการทบทวนเอกสารดังกล่าว และประเทศไทยได้เสนอจัดประชุมในหัวข้อกลไก
                  การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในระดับภูมิภาคซึ่งจะมีการเปรียบเทียบกลไกสิทธิมนุษยชนของ
                  ภูมิภาคอื่นๆ เช่น อเมริกา ยุโรป อาฟริกา เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเสนอแนะปรับปรุงกลไกของอาเซียนต่อไป


                                  1. ความท้าทายในเนื้อหาของเอกสารขอบเขตอ านาจหน้าที่ฉบับใหม่
                                    เอกสารขอบเขตหน้าที่ฉบับปัจจุบันถูกใช้เป็นแนวทางในการด าเนินงานของ
                  คณะกรรมาธิการมาเป็นระยะเวลากว่า 6 ปีนับแต่การจัดตั้งองค์กร อย่างไรก็ตาม เอกสารขอบเขตหน้าที่ยัง

                  ปรากฏข้อจ ากัดอยู่หลายประการ เช่น ความไม่สมดุลในภารกิจด้านการคุ้มครองและด้านส่งเสริมสิทธิ
                  มนุษยชน บทบัญญัติต่างๆในเอกสารขอบเขตหน้าที่ให้น้ าหนักไปที่ภารกิจด้านการส่งเสริมมากกว่าด้านการ
                  คุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชนโดยมีเพียงข้อ 4.10 ที่ระบุให้คณะกรรมาธิการสามารถขอรับข้อมูลจากประเทศ

                  สมาชิกในเรื่องสิทธิมนุษยชนที่แสดงถึงภารกิจด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างชัดแจ้ง ส่วนกลไกการ
                  คุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่ส าคัญคือการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนที่ถูกละเมิดสิทธิยังไม่ปรากฏใน
                  เอกสารขอบเขตอ านาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ กลไกในการรับเรื่องราวร้องทุกข์อาจถูกพัฒนาให้เกิดขึ้น
                  ได้จากการใช้อ านาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการตามมาตรา 4.10 แต่ในทางปฏิบัติคณะกรรมาธิการมัก
                  ประสบปัญหาในการใช้กลไกตามข้อก าหนดดังกล่าว อันเนื่องมาจากการต้องได้รับฉันทามติจากผู้แทนของ

                  ทุกประเทศและประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในภูมิภาคอาเซียนมักถูกพิจารณาว่าเป็นกิจการ
                  ภายในของประเทศสมาชิก และการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นพิจารณาเข้าข่ายเป็นการแทรกแซงกิจการ
                  ภายใน ดังที่ได้กล่าวถึงข้างต้น นอกจากนี้แม้จะมีบทบัญญัติบางมาตราในเอกสารขอบเขตอ านาจหน้าที่

                  ที่เปิดช่องทางให้ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและเลขาธิการอาเซียนสามารถร้องขอให้
                  คณะกรรมาธิการปฏิบัติภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่งได้ที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งอาจน าไปสู่การร้องขอให้มี
                  คณะกรรมาธิการมีการสร้างกลไกรับเรื่องราวร้องทุกข์ แต่จนกระทั่งถึงปัจจุบันทั้งสององค์กรยังไม่เคยมีการ
                  ใช้อ านาจตามมาตราดังกล่าว ความคลุมเครือและการขาดการบัญญัติถึงกลไกรับเรื่องราวร้องทุกข์จาก

                  ประชาชนท าให้คณะกรรมาธิการไม่สามารถปฏิบัติภารกิจด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนได้อย่างมี
                  ประสิทธิภาพ  หากพิจารณากระบวนการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการที่ใช้ฉันทามติเป็นหลัก
                  ความคาดหวังของกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ต้องการให้มีการจัดตั้ง “ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งอาเซียน” ในลักษณะ
                  เดียวกับศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปหรือภูมิภาคอื่นๆ คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากยิ่งในทศวรรษนี้ สิ่งที่มีความ

                  เป็นไปได้มากกว่าคือการปรับปรุงข้อก าหนดในเอกสารขอบเขตอ านาจหน้าที่ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
                  เพื่อให้คณะกรรมาธิการสามารถพิจารณาตรวจสอบประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศสมาชิก
                  ตลอดจนการเสนอแนะให้มีการแก้ไขปรับปรุงที่เหมาะสม


                                  2. ความท้าทายเกี่ยวกับการให้โอกาสผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะองค์กรในภาค
                  ประชาสังคมมีส่วนร่วมในกระบวนการปรับปรุงกลไกสิทธิมนุษยชน
                                    AICHR มีประสบการณ์โดยตรงมาแล้วจากกรณีการยกร่างปฏิญญาสิทธิมนุษยชน

                  อาเซียนที่ได้รับการวิจารณ์จากองค์กรภาคประชาสังคมและองค์กรสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ที่ไม่ได้รับโอกาสให้
                  เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นหรือเปิดเผยเอกสารเพื่อการหารือเท่าที่ควร ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นและอาจ
                  เกิดขึ้นได้อีกในกระบวนการทบทวนขอบเขตอ านาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ คือการสร้างความเข้าใจ







                  National Human Rights Commission of Thailand                                          66
   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82