Page 73 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 73
รายงานการศึกษาวิจัย
โครงการการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
ไปสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 การขาดความตระหนักถึงความส าคัญด้านสิทธิมนุษยชนของ
ประเทศสมาชิกส่งผลต่อความร่วมมือด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในระดับภูมิภาค
ในข้อเท็จจริง ประเทศในภูมิภาคอาเซียนมีความแตกต่างและหลากหลายทั้งในแง่
ระบอบการปกครอง การเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นข้ออธิบายถึงการเน้นถึงลักษณะ
จ าเพาะ (Particularities) ของแต่ละประเทศที่ต้องค านึงถึงในการด าเนินการด้านต่างๆ ของประชาคม
อย่างไรก็ตาม ประเทศเหล่านี้ก็มีลักษณะร่วมกันในหลายประการเช่นกัน เช่นการมีวิถีชีวิตที่ให้ความส าคัญ
กับชุมชนและท้องถิ่น ตลอดจนความเอื้ออาทรระหว่างคนต่างกลุ่มชาติพันธุ์ การสร้างความตระหนักและ
เข้าใจเกี่ยวกับหลักการสิทธิมนุษยชนในระดับภูมิภาคในฐานะหลักการพื้นฐานเป็นสิ่งส าคัญและจ าเป็นต่อ
การสร้างประชาคม การเป็นประชาคมเดียวกันของอาเซียนย่อมหมายความว่า ประชาชนในอาเซียนมี
หลักการพื้นฐานและมีเป้าหมายระยะยาวร่วมกันและการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศ
สมาชิกหนึ่งย่อมเป็นประเด็นที่ประชาชนของประเทศสมาชิกอื่นๆ และประชาคมต้องให้ความสนใจและ
สามารถหยิบยกขึ้นพิจารณาเพื่อให้มีการพัฒนาปรับปรุงได้ ในประเด็นนี้สหภาพยุโรป (European Union)
เป็นตัวอย่างที่ดีต่ออาเซียนในแง่ที่ว่า ประเทศที่มีความแตกต่างกันในระดับที่มากกว่าภูมิภาคอาเซียน และ
เคยก่อสงครามระหว่างกันหลายครั้งในประวัติศาสตร์ ยังสามารถรวมตัวกันได้ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง
สังคมและวัฒนธรรม โดยยึดถือหลักการสิทธิมนุษยชนเป็นพื้นฐานที่ส าคัญประการหนึ่ง (นอกเหนือจากหลัก
ประชาธิปไตยและหลักนิติรัฐ) จึงไม่มีเหตุผลใดที่ความแตกต่างในด้านต่างๆ ของประเทศสมาชิกอาเซียนจะ
ถูกหยิบยกเป็นประเด็นต่อการพัฒนาประชาคมที่ยึดถือหลักการสิทธิมนุษยชนอย่างสากล นอกจากนั้น
ลักษณะจ าเพาะของประเทศสมาชิกที่พึงต้องค านึงถึง ต้องเป็นลักษณะจ าเพาะที่ส่งเสริมหลักการพื้นฐาน
ของประชาคม เช่น หลักการสิทธิมนุษยชน เท่านั้นโดยไม่อาจกล่าวอ้างถึงความจ าเพาะในด้านการใช้ความ
รุนแรงและการใช้สิทธิของคนหมู่มากเพื่อละเมิดสิทธิของคนกลุ่มที่มีอ านาจต่อรองน้อยกว่า
2. กระบวนการสรรหาและสถานะของผู้แทน
นอกจากประเด็นความเข้าใจหลักการสิทธิมนุษยชนแล้ว กระบวนการสรรหาและ
คัดเลือกผู้แทน AICHR เป็นอีกประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ ซึ่งสามารถแยกพิจารณาได้ดังนี้
1) ส าหรับประเด็นกระบวนการสรรหาผู้แทน เอกสารขอบเขตอ านาจหน้าที่
ก าหนดให้ประเทศสมาชิกควรปรึกษากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เหมาะสมในการแต่งตั้งผู้แทนเข้าร่วมใน
คณะกรรมาธิการ ทั้งนี้ หากเป็นข้อก าหนดตามกระบวนภายในของประเทศสมาชิก ในทางปฏิบัติ วิธีการ
สรรหาและคัดเลือกผู้แทนประเทศสมาชิกที่ใช้กันมีอยู่ 2 วิธี วิธีแรกคือการที่ประเทศสมาชิกจัดกระบวนการ
สรรหาผู้แทนแบบเปิด คือมีการเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ามาเป็นผู้แทน AICHR และวิธีที่สองคือการที่
รัฐบาลของประเทศสมาชิกแต่งตั้งผู้แทนเองตามความเหมาะสม มาตรฐานของกระบวนการสรรหาและ
คัดเลือกที่แตกต่างกันย่อมน ามาสู่ที่มาและสถานะตลอดจนระดับความเข้าใจและทัศนคติต่อประเด็นสิทธิ
มนุษยชนที่แตกต่างกันระหว่างผู้แทนของแต่ละประเทศ ส าหรับประเทศไทย ในการแต่งตั้งผู้แทนใน AICHR
ที่ผ่านมาใช้วิธีการเปิดรับสมัครอย่างเปิดเผยและมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาเพื่อพิจารณาคุณสมบัติ
และวิสัยทัศน์ของผู้สมัครเป็นผู้แทน ในภาพรวมของ AICHR ผู้แทนของประเทศสมาชิกส่วนใหญ่เป็น
ข้าราชการหรืออดีตข้าราชการจากกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสมาชิกที่แต่งตั้ง ส่วนน้อยจะมี
National Human Rights Commission of Thailand 62