Page 76 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 76

รายงานการศึกษาวิจัย
                   โครงการการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน


                  แลกเปลี่ยนข้อมูลและความเห็นเกี่ยวกับงานด้านสิทธิมนุษยชนในอาเซียน แต่การขาดหลักเกณฑ์พิจารณา
                  คุณสมบัติขององค์กรเหล่านี้มักถูกหยิบยกขึ้นเป็นประเด็นที่ท าให้ไม่สามารถติดต่อประสานงานระหว่างทั้ง
                  สองฝ่าย นอกจากนั้นยังต้องพิจารณาว่า แนวทางที่คณะผู้แทนถาวรจัดท าขึ้นเหมาะสมหรือสอดคล้องกับ

                  ลักษณะการติดต่อประสานงานระหว่างองค์กรภาคประชาสังคมและคณะกรรมาธิการในด้านการส่งเสริม
                  และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนซึ่งอาจต้องเปิดโอกาสให้องค์กรที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางหรือไม่ เมื่อ
                  มีการแต่งตั้งผู้แทน AICHR ในรอบที่สอง ผู้แทนไทยใน AICHR ได้ริเริ่มการปรับปรุงร่างเอกสารแนวทาง
                  ความสัมพันธ์ระหว่าง AICHR และ CSO (Guidelines on AICHR’s Relations with CSOs) ซึ่ง AICHR ได้

                                                                                                         52
                  ใช้เวลาตลอดปี พ.ศ. 2557 เจรจาและได้ลงมติรับรองแนวทางร่างเอกสารดังกล่าวในต้นปี พ.ศ. 2558
                  และในปลายปี พ.ศ. 2558 ได้มีการรับรอง CSO แล้วจ านวน 5 แห่ง


                                  6. ขอบเขตอ านาจหน้าที่และทิศทางการท างาน
                                    การเปิดประชาคมอาเซียนในปลายปี พ.ศ. 2558 จะน ามาสู่การเคลื่อนย้ายสินค้า
                  บริการ เงินทุนและประชากรในภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะประเทศในกลุ่มภูมิภาคลุ่มน้ าโขงซึ่งรวมประเทศ
                  ไทย ลาว เวียดนาม เมียนมาร์และกัมพูชา ซึ่งย่อมน ามาสู่ประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่จะมีประเภท
                  ของปัญหาที่มากขึ้นและทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แม้ว่าการประกอบอาชีพของแรงงานในประชาคม

                  อาเซียนจะเปิดเสรีเฉพาะภาคแรงงานมีฝีมือเท่านั้น แต่การเปิดพรมแดนและการเดินทางติดต่อของ
                  ประชากรอาเซียนเพื่อการค้าขาย ท่องเที่ยวและท างานย่อมท าให้เกิดความเสี่ยงของประชากรที่จะถูกละเมิด
                  สิทธิมนุษยชนในรูปแบบต่างๆ สภาพของปัญหาที่จะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นนี้ ท าให้ต้องพิจารณาว่า การ

                  ท างานของคณะกรรมาธิการภายใต้ขอบเขตอ านาจหน้าที่และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตลอดหกปีที่ผ่านมาจะ
                  สามารถเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนให้เกิดการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนใน
                  ประชาคมอาเซียนได้อย่างแท้จริงหรือไม่


                            6.2.2 ความท้าทายในการปรับปรุงกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียน
                                  ความท้าทายประการส าคัญที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2557 ต่อเนื่องกับปี พ.ศ. 2558
                  ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ครบ 6 ปีนับตั้งแต่มีการประกาศใช้เอกสารขอบเขตอ านาจหน้าที่คือการทบทวนเอกสาร

                  ดังกล่าวซึ่งผู้วิจัยเห็นว่า คณะผู้ยกร่างเอกสารขอบเขตอ านาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการตระหนักถึง
                  อุปสรรคในการเจรจาขอบเขตอ านาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการในระยะเริ่มแรก จึงได้ก าหนดกระบวนการ
                  ให้มีการทบทวน (Review) ขอบเขตอ านาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเมื่อครบระยะเวลา 5 ปีนับตั้งแต่มี
                  การประกาศใช้ซึ่งที่ประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนเป็นผู้มีอ านาจด าเนินการทบทวน

                  โดยคณะกรรมาธิการจะท าการประเมินการด าเนินงานและจัดท าข้อเสนอแนะเพื่อการทบทวนขอบเขต
                  อ านาจหน้าที่ต่อที่ประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ซึ่งในแผนงาน  5 ปีของ
                  คณะกรรมาธิการ ได้ก าหนดให้คณะกรรมาธิการเริ่มการพิจารณากระบวนการทบทวนขอบเขตอ านาจหน้าที่
                  เพื่อเสริมภารกิจในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมาธิการ  ในการนี้ประเทศสมาชิก

                  หลายประเทศได้เสนอแผนงานส าหรับปี พ.ศ. 2557 หลายประการเพื่อให้มีการพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้อง
                  กับการปรับปรุงเอกสารขอบเขตอ านาจหน้าที่ เช่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์และไทยจะร่วมกันเป็นเจ้าภาพ



                  52  ดูแนวทางดังกล่าวได้ที่ http://aichr.org/documents/



                  National Human Rights Commission of Thailand                                          65
   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81