Page 75 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 75
รายงานการศึกษาวิจัย
โครงการการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
4. ความเชื่อมโยงและความร่วมมือกับองค์กรสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ในอาเซียน
ภายใต้ประชาคมอาเซียนมีประชาคมแยกย่อยอีกสามประชาคม ได้แก่ ประชาคม
การเมืองและความมั่นคง ประชาคมเศรษฐกิจ และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม ซึ่ง แต่ละประชาคมมี
“คณะมนตรีประชาคม” (Community Councils) ซึ่งมีหน่วยงานภายในประเทศสมาชิกที่เกี่ยวข้อง
ท าหน้าที่เป็นฝ่ายประสานงาน ส าหรับ AICHR กฎบัตรอาเซียนมิได้ก าหนดให้อยู่ภายใต้ “สังกัด” ของ
ประชาคมหนึ่งประชาคมใด ทั้งนี้ เนื่องจากประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องกับทุก
ประชาคมทั้งในด้านความมั่นคง การเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม เอกสารขอบเขต
อ านาจหน้าที่ได้ก าหนดให้คณะกรรมาธิการเสนอรายงานประจ าปีและเอกสารอื่นๆ ต่อที่ประชุมรัฐมนตรี
ต่างประเทศอาเซียน (ASEAN Foreign Ministers Meeting) และในการด าเนินงานตามข้อเท็จจริง
คณะกรรมาธิการปฏิบัติภารกิจภายใต้ประชาคมการเมืองและความมั่นคงเป็นหลัก เนื่องจากกระทรวงการ
ต่างประเทศของประเทศสมาชิกซึ่งเป็นหน่วยประสานงานหลักของประชาคมดังกล่าวท าหน้าที่เป็น
หน่วยงานในด้านธุรการให้กับผู้แทนประเทศสมาชิกในคณะกรรมาธิการ นอกจากนี้ตามการจัดผังโครงสร้าง
องค์กรของส านักเลขาธิการอาเซียนใหม่ตามวิสัยทัศน์อาเซียน 2025 ที่ผู้น าอาเซียนรับรองในปลายปี พ.ศ.
2558 ซึ่งได้กล่าวถึงในบทที่ 3 ได้ก าหนดให้ฝ่ายเลขานุการของ AICHR เปลี่ยนสังกัดจากเดิมที่อยู่ภายใต้
ฝ่ายอ านวยการ (Corporate affairs) มาอยู่ภายใต้ฝ่ายการเมืองและความมั่นคงซึ่งเป็นเสาเดียวกันกับ
AMM การจัดโครงสร้างลักษณะดังกล่าวท าให้เกิดประเด็นการขาดความเชื่อมโยง ความร่วมมือและการ
ประสานงานกับองค์กรในด้านสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะ
องค์กรคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก และคณะกรรมการ
อาเซียนด้านแรงงานอพยพ ซึ่งยังขาดการประสานงานในด้านการวางแผนงานโครงการและการด าเนิน
ความสัมพันธ์กับองค์กรภายนอกประชาคมเพื่อป้องกันความซ้ าซ้อนและก าหนดแนวทางให้โครงการด้าน
การส่งเสริมสิทธิมนุษยชนมีประสิทธิภาพ
5. การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการท างาน
องค์กรภาคประชาสังคม (Civil Society Organisations) ด้านสิทธิมนุษยชนใน
อาเซียนมีความตื่นตัวในการขับเคลื่อนการพัฒนาระดับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในภูมิภาค
อย่างมาก และเรียกร้องการมีส่วนร่วมในการท างานกับคณะกรรมาธิการอยู่เสมอ ทั้งนี้กฎบัตรอาเซียน
ก าหนดว่าอาเซียนอาจติดต่อกับองค์กรที่สนับสนุนกฎบัตรอาเซียนได้และก าหนดให้คณะผู้แทนถาวร
(Committee of Permanent Representatives) จัดท าหลักเกณฑ์การติดต่อโดยค าแนะน าของเลขาธิการ
อาเซียน และต่อมาคณะผู้แทนถาวรได้จัดท าเอกสารแนวทางการรับรององค์กรภาคประชาสังคม
(Guidelines on Accreditation of Civil Society Organisations) ซึ่งองค์กรที่ได้รับการรับรองจะมีสิทธิ
(Privileges) ตามที่ก าหนดไว้ เช่น การใช้ค าว่า “อาเซียน” ในชื่อองค์กร การจัดท าข้อเสนอโครงการเพื่อรับ
การสนับสนุนด้านการเงินจากองค์กรภายนอกผ่านส านักเลขาธิการอาเซียน และการจัดท าข้อเสนอแนะ
เชิงนโยบายต่อองค์กรในอาเซียน เป็นต้น ส าหรับคณะกรรมาธิการเองได้มีการหารือเกี่ยวกับความจ าเป็น
และกระบวนการจัดท าเอกสารแนวทางการมีส่วนร่วมหรือการติดต่อระหว่างองค์กรภาคประชาสังคมและ
คณะกรรมาธิการตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2555 และได้พิจารณาปรับปรุงร่างแนวทางหลายครั้ง แต่เมื่อครบวาระ
การด ารงต าแหน่งของผู้แทนในคณะกรรมาธิการสมัยแรก ท าให้การพิจารณาร่างแนวทางสะดุดลง ประเด็น
ที่ส าคัญคือปัจจุบันองค์กรภาคประชาสังคมหลายแห่งต้องการติดต่อโดยตรงกับคณะกรรมาธิการเพื่อ
National Human Rights Commission of Thailand 64