Page 207 - รายงานศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยผังเมืองกับการคุ้มครองสิทธิชุมชนและสิทธิการมีส่วนร่วมของประชาชน
P. 207
สำานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำาผังเมืองดำาเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโดยขัดกับสิทธิชุมชนโดยชัดแจ้ง
ถือเป็นการกระทำาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยวางบรรทัดฐานเกี่ยวกับประเด็น
ดังกล่าวไว้แล้ว ในคำาพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.79/2547 ดังนี้
มาตรา 26 วรรคสาม “ในระหว่างที่กฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งใช้บังคับ ถ้าสำานักผังเมือง หรือ
เจ้าพนักงานท้องถิ่นเห็นสมควรจะกำาหนดให้แก้ไขปรับปรุงผังเมืองรวมเสียใหม่ ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์
และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป หรือเพื่อประโยชน์แห่งรัฐก็ได้...”
กรณีศึกษา เป็นคดีเกี่ยวกับการที่เอกชนซึ่งประกอบกิจการกำาจัดขยะมูลฝอย เกิดปัญหาสถานที่นำา
ขยะมูลฝอยไปฝังกลบไม่เพียงพอ จึงต้องจัดหาที่ดินแห่งใหม่ ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่าที่ดินบริเวณดังกล่าว
อยู่ในพื้นที่ผังเมืองรวมสมุทรปราการและมีข้อกำาหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินห้ามใช้ประโยชน์เพื่อกิจการกำาจัด
มูลฝอย ผู้ว่าราชการจังหวัด (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) จึงมีหนังสือถึงอธิบดีกรมการผังเมืองให้ดำาเนินการแก้ไข
ข้อกำาหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินเฉพาะในบริเวณแปลงที่ดินของเอกชนรายดังกล่าว จากพื้นที่สีส้ม ประเภท
ที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง เป็นพื้นที่สีม่วง ประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินค้า เพื่อให้สามารถใช้เป็น
สถานที่กำาจัดมูลฝอยได้ และกรมการผังเมืองได้เสนอเรื่องให้คณะกรรมการผังเมืองพิจารณาแก้ไขข้อกำาหนด
การใช้ประโยชน์ที่ดิน
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ดำาเนินการให้มีการแก้ไขข้อกำาหนดการใช้
ประโยชน์ที่ดินของผังเมืองรวมสมุทรปราการ เพื่อให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 6 สามารถประกอบกิจการกำาจัดมูลฝอย
ได้ในบริเวณพื้นที่สีส้ม ซึ่งเป็นประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลางของผังเมือง การดำาเนินการดังกล่าว
ไม่ได้ทำาให้มีหรือทำาให้ดีขึ้นซึ่งสุขลักษณะ ความสะดวกสบาย ความเป็นระเบียบ ความสวยงาม การใช้
ประโยชน์ในทรัพย์สิน ความปลอดภัยของประชาชนและสวัสดิภาพของสังคม สำาหรับประชาชนที่อาศัย
อยู่ในที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง ตามวัตถุประสงค์ของการผังเมือง เนื่องจากกิจการกำาจัด
มูลฝอยเป็นกิจการที่ไม่เหมาะสมจะให้มีในพื้นที่ซึ่งผังเมืองรวมกำาหนดไว้เป็นประเภทที่อยู่อาศัย อีกทั้ง
ข้อกำาหนดผังเมืองรวมที่ห้ามประกอบกิจการกำาจัดมูลฝอยในที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง
เป็นข้อกำาหนดเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ เพราะเป็นมาตรฐานกลางของผังเมืองรวมที่ใช้บังคับทั่วประเทศ
มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนโดยรวม เพื่อให้สามารถดำารงชีพอยู่ได้อย่างปกติและ
ต่อเนื่องในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิตของตน
การแก้ไขข้อกำาหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินของผังเมืองรวมสมุทรปราการดังกล่าว จึงไม่เป็นการแก้ไข ปรับปรุง
ผังเมืองรวมเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ ตามมาตรา 26 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518
การดำาเนินการขอแก้ไขข้อกำาหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของ
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 6 ที่รับจ้างกำาจัดมูลฝอยจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 และเพื่อประโยชน์ของหน่วยงานราชการ คือ
กรุงเทพมหานครและองค์การบริหารส่วนตำาบลราชาเทวะ และเพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการกำาจัด
มูลฝอยตามอำานาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 เท่านั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ดำาเนินการ
206