Page 57 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 57

48



                                         ดังนั้น การเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม (Unfair discrimination) คือ การเลือกปฏิบัติ
                  ที่ปราศจากเหตุผลหรือไร้เหตุผล ถ้าเป็นเหตุผลที่คนทั่วไปยอมรับแล้วก็จะไม่เป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม
                                         นอกจากนี้ นายแก้วสรร อติโพธิ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญได้อธิบายมาตรา  30

                  วรรคสามว่า  การเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมประกอบด้วย  2  ปัจจัย คือ การปฏิบัติที่แตกต่าง และลักษณะที่
                  ไม่เป็นธรรม โดยให้ความสนใจไปที่บุคคลที่ไม่สามารถกําหนดถิ่นกําเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ และศาสนา
                  และบุคคลเหล่านั้น ถูกปฏิบัติที่แตกต่างไปเพราะลักษณะเหล่านั้น เป็นการปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรมและขัดต่อหลัก
                  ความเสมอภาค แต่บางครั้งการปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไปยังไม่ถือเป็นการเลือกที่รักมักที่ชัง วรรคสามนี้เน้น
                  ไปในการอธิบายว่า การเลือกที่รักมักที่ชัง เช่น ในกรณีที่กองทัพไทยไม่รับผู้หญิงเป็นทหารเรือ เพราะมองว่า

                  ร่างกายผู้หญิงไม่เหมาะสมกับงานของทหารเรือ ซึ่งถือเป็นการเลือกปฏิบัติ แต่ไม่เป็นการเลือกที่รักมักที่ชัง
                  เพราะมีเหตุผลเรื่องกายภาพมารองรับ ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นการอธิบายแนวคิดการเลือกปฏิบัติที่ปรากฏใน
                  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 การห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต้องประกอบ

                  ด้วยการปฏิบัติที่แตกต่าง และมีลักษณะที่ไม่เป็นธรรม แม้จะมีการเลือกปฏิบัติ แต่การเลือกปฏิบัตินั้นจะฝุาฝืน
                  รัฐธรรมนูญมาตรา 30 วรรคสาม เมื่อเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ต่อมาเมื่อมีการรัฐประหารเกิดขึ้นในปี
                  พ.ศ.2549 มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับที่ 17 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช
                  2549 ทําให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ถูกยกเลิกไป และมีการจัดทํารัฐธรรมนูญ

                  ฉบับใหม่ เป็นรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
                                  2.6.2.2 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
                                         รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มีหลายมาตราที่ให้ความสําคัญ
                  กับความเท่าเทียมกัน และการห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม รายละเอียดดังนี้

                                         “มาตรา 5  ประชาชนชาวไทยไม่ว่าเหล่ากําเนิด เพศ หรือศาสนาใด ย่อมอยู่ใน
                  ความคุ้มครองแห่งรัฐธรรมนูญนี้เสมอกัน”
                                         มาตรา 30 “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
                  เท่าเทียมกัน

                                         ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
                                         การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่น
                  กําเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจ

                  หรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่ง
                  รัฐธรรมนูญ จะกระทํามิได้
                                         มาตรการที่รัฐกําหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและ
                  เสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม”
                                         รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้นําแนวคิด ความเสมอภาคระหว่างชายหญิง และแนวคิดการ

                  เลือกปฏิบัติมาจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และได้มีการเพิ่ม “ความพิการ” เป็น
                  เหตุหนึ่งที่ห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62