Page 59 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 59

50



                                  2.6.3.1 ศาลรัฐธรรมนูญ
                                         ในการวินิจฉัยคดี ศาลรัฐธรรมนูญมักจะให้คําอธิบายมาตรา 29 และมาตรา 30
                  ควบคู่กันไป โดยมาตรา 29 แห่งรัฐธรรมนูญ บัญญัติว่า

                                         “การจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้จะกระทํามิได้ เว้นแต่
                  โดยอาศัยอํานาจ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะเพื่อการที่รัฐธรรมนูญนี้กําหนดไว้และเท่าที่จําเป็นเท่านั้น
                  และจะกระทบกระเทือนสาระสําคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพนั้นมิได้
                                         กฎหมาย ตามวรรคหนึ่งต้องมีผลใช้บังคับเป็นการทั่วไปและไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับ
                  แก่กรณีใดกรณีหนึ่งหรือแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจง  ทั้งต้องระบุบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่ให้

                  อํานาจในการตรากฎหมายนั้นด้วย
                                         บทบัญญัติวรรคหนึ่งและวรรคสองให้นํามาใช้บังคับกับกฎหรือข้อบังคับที่ออกโดย
                  อาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายด้วย โดยอนุโลม”

                                         “มาตรา 30 บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
                  เท่าเทียมกัน
                                         ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
                                         การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่น

                  กําเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจ
                  หรือสังคม  ความเชื่อทางศาสนา  การศึกษาอบรม  หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่ง
                  รัฐธรรมนูญ จะกระทํามิได้
                                         มาตรการที่รัฐกําหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและ

                  เสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่นย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม”
                                         ศาลรัฐธรรมนูญได้อธิบายว่า ตามที่รัฐธรรมนูญได้ให้การคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกัน
                  ในสิทธิและเสรีภาพของบุคคล แต่ไม่ได้หมายความว่า สิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองจะมีการจํากัดหรือ
                  เลือกปฏิบัติมิได้เลย เพราะมาตรา 29 และมาตรา 30 ได้มีการบัญญัติถึงการจํากัดสิทธิเสรีภาพ และการเลือก

                  ปฏิบัติไว้ โดยการจํากัดสิทธิเสรีภาพจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของมาตรา 29 คือจะต้องเป็นกรณีที่รัฐธรรมนูญ
                  เปิดโอกาสให้ทําได้เฉพาะเท่าที่จําเป็นเท่านั้น  อีกทั้งต้องไม่กระทบกระเทือนสาระสําคัญแห่งสิทธิเสรีภาพที่
                  รัฐธรรมนูญรับรองไว้ ต้องบังคับได้เป็นการทั่วไปโดยไม่มุ่งหมายจะบังคับใช้แก่กรณีใดกรณีหนึ่งหรือแก่บุคคลใด

                  บุคคลหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง ส่วนมาตรา 30 เป็นบทบัญญัติที่คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยอย่าง
                  เท่าเทียมกัน โดยให้ทุกคนมีความเสมอภาคกันภายใต้กฎหมายซึ่งเป็นหลักความเสมอภาค โดยการรับรองสิทธิ
                  ที่เท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง บุคคลย่อมมีความแตกต่างกันในถิ่นกําเนิด เชื้อชาติ สภาพทางกาย สถานะ
                  ของบุคคล ฐานะทางสังคม เศรษฐกิจ อาจปฏิบัติต่อบุคคลเหล่านี้แตกต่างกันไปได้ แต่การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็น
                  ธรรมจะกระทําไม่ได้ (คําวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 50/2545, 48/2545, 10/2549)

                                         หลักความเสมอภาคตามมาตรา 30 มีพื้นฐานมาจากหลักความเสมอภาคเท่าเทียม
                  กันตามธรรมชาติที่เป็นการยอมรับว่าสิทธิตามธรรมชาติของปัจเจกชนนั้นเป็นสิทธิที่มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64