Page 56 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 56

47




                  การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทํามิได้ มาตรการ
                  ที่รัฐกําหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น

                  ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม”
                                         แนวคิดการเลือกปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการกําหนดห้ามมิให้มีการเลือก
                  ปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมด้วยเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกําเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกาย
                  หรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรมหรือ
                  ความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ  เป็นการบัญญัติเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า

                  การกระทําของรัฐเพื่อขจัดอุปสรรคที่ทําให้เกิดความเสมอภาค ย่อมไม่เป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม และ
                  ไม่ขัดกับวรรคสาม และวรรคหนึ่ง โดยการปฏิบัติที่แตกต่างกับผู้ที่มีลักษณะแตกต่างจากบุคคลอื่นทั่วไปเพื่อ
                  ส่งเสริมให้เกิดความเสมอภาค ไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม เช่น การกําหนดโควตาในการรับเด็กพิการ

                  เข้าเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจํานวนนักศึกษาทั้งหมด แต่เดิมในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้บัญญัติถึงแนวคิด
                  การเลือกปฏิบัติโดยแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ ลักษณะที่หนึ่ง การเลือกปฏิบัติเชิงบวก (Positive discrimination)
                  และลักษณะที่สองการเลือกปฏิบัติเชิงลบ (Negative discrimination) การเลือกปฏิบัติเชิงบวก คือ การเลือก
                  ปฏิบัติที่กระทําโดยรัฐหรือเอกชน  ในขณะที่การเลือกปฏิบัติเชิงลบ หมายถึง การที่รัฐละเว้นการปูองกันมิให้

                  เกิดความเสมอภาคเท่าเทียม ดังนั้น รัฐจึงมีหน้าที่ในการที่จะห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติ และต้องขจัดอุปสรรค
                  ทางเศรษฐกิจ สังคมเพื่อนําไปสู่ความเสมอภาคได้อย่างแท้จริง ซึ่งในร่างรัฐธรรมนูญนั้นไม่ได้ระบุถึงเหตุแห่ง
                  ความแตกต่าง เพียงแต่เน้นย้ําว่าการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมจะทํามิได้ แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากหลักการ
                  เลือกปฏิบัติเป็นหลักการที่ใหม่ และเป็นที่ถกเถียงในประเด็นความหมายของคําว่า “การเลือกปฏิบัติ” ท้ายที่สุด

                  จึงถูกบัญญัติให้เหลือแต่เพียงการห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม (Unfair discrimination) ส่งผลให้
                  การกระทําของรัฐที่เป็นการเลือกปฏิบัติ แต่หากเป็นการเลือกปฏิบัติที่เป็นธรรม ย่อมกระทําได้ โดยจะต้องเป็น
                  การเลือกปฏิบัติที่สมเหตุสมผล และเหมาะสมที่จะกระทําเช่นนั้นต่อบุคคลนั้น กรณีนี้ ศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์
                  อุวรรณโน สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายมหาชน ได้ให้การอธิบายในการประชุมร่วมกัน

                  ของรัฐสภาในการพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ... ว่าการเลือก
                  ปฏิบัติที่เป็นธรรม ต้องเป็นการเลือกปฏิบัติที่สมเหตุสมผล และได้ยกตัวอย่างไว้ดังนี้
                                         ตัวอย่างที่หนึ่ง นาย ก จ่ายเงินเพื่อซื้อตั๋วรถโดยสารชั้นหนึ่ง นาย ก จ่ายเงินมากกว่า

                  ย่อมต้องได้รับการบริการที่ดีกว่า
                                         ตัวอย่างที่สอง ในกรณีการจัดตั้งศาลเด็กเป็นการเลือกปฏิบัติ แต่เป็นการเลือก
                  ปฏิบัติที่เป็นธรรม เพราะว่าเด็กมีสติสัมปชัญญะแตกต่างจากผู้กระทําผิดที่เป็นผู้ใหญ่ หรือการกําหนด
                  คุณสมบัติต่างๆ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา ที่มีแนวโน้มว่าต้องการให้ผู้ลงสมัคร
                  รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องมีวุฒิปริญญาตรี จะมีการกําหนดคุณสมบัติผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง

                  ได้หรือไม่ หรือการกําหนดคุณสมบัติว่าบุคคลใดมีสิทธิสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือไม่ การกําหนดคุณสมบัติเป็น
                  เงื่อนไขเบื้องต้นก่อนที่จะมีสิทธิ คุณสมบัติไม่ใช่สิทธิในตัวเอง ถ้าเป็นสิทธิต้องก่อให้เกิดหน้าที่ ดังนั้น ในการ
                  กําหนดคุณสมบัติจึงมิใช่การรอนสิทธิ
   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61