Page 47 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 47

38




                  Affaire linguistique belge ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 1969 ว่า “ความไม่เสมอภาคทางกฎหมายบางประเภท
                  มีขึ้นเพื่อแก้ไขความไม่เสมอภาคในทางความเป็นจริง” (Jean-Francois FLAUSS, “Discrimination positive

                  et convention europeenne des droits de l’ homme,” in Pouvoir et Liberte Etudes Offertes a
                  Jacques  MOURGEON  (Bruxelles:Emile  Bruylant, 1998),  p.419. อ้างถึงในสมคิด เลิศไพฑูรย์, 2543:
                  170)
                                           ในประเทศฝรั่งเศส หลักการนี้กลับมิได้รับการยอมรับ เพราะถือว่าขัดกับหลัก
                  ความเสมอภาค โดยตุลาการรัฐธรรมนูญฝรั่งเศสได้วินิจฉัยไว้เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 1982  ว่าการที่รัฐสภา

                  ตรากฎหมายกําหนดว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลแบบบัญชีรายชื่อนั้น บัญชีรายชื่อใดบัญชีรายชื่อหนึ่ง
                  จะมีผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลเพศเดียวกันเกินกว่า 75% ไม่ได้ คือว่าขัดกับหลักความเสมอภาคที่บัญญัติไว้
                  ในรัฐธรรมนูญ (Patrick WACHSMANN,op. cit, p.234. อ้างถึงในสมคิด เลิศไพฑูรย์, 2543: 171)

                                         6) การปฏิบัติให้แตกต่างกันอันเนื่องมาจากระบบที่แตกต่างกัน
                                           การปฏิบัติให้แตกต่างกันนั้นอาจมีผลสืบเนื่องจากการมีระบบที่แตกต่างกัน
                  ดังนั้นการจะพิจารณาเปรียบเทียบว่ามีการปฏิบัติเท่าเทียมกันหรือไม่ ต้องมีการเปรียบเทียบว่าอยู่ในระบบ
                  เดียวกันหรือไม่ เช่น การที่กําหนดให้ข้าราชการ ทหาร หรือตํารวจมีสิทธิในการประท้วงการนัดหยุดงานเพื่อ

                  ต่อรองค่าจ้างหรือเงินเดือนของข้าราชการ ซึ่งแตกต่างไปจากระบบของเอกชนที่ให้ลูกจ้างมีสิทธิที่ใช้การ
                  ประท้วง การนัดหยุดงานตามขั้นตอนที่กฎหมายกําหนดไว้เป็นเครื่องมือในการต่อรองเรื่องเงื่อนไขในการจ้างได้
                  ในกรณีนี้มิอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมกันอันขัดต่อหลักความเสมอภาค ทั้งนี้เพราะระบบ
                  ของราชการกับระบบของภาคเอกชนนั้น มีลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนั้น ในบางกรณีจึงไม่อาจจะนําระบบที่

                  แตกต่างกันมาพิจารณาเปรียบเทียบกับการปฏิบัติที่แตกต่างกันได้ (บรรเจิด สิงคะเน, 2543: 21)
                                         7) การปฏิบัติให้แตกต่างกันอันเนื่องมาจากประเพณี
                                           ขนบธรรมเนียมประเพณีที่แตกต่างกันอาจเป็นเหตุในการปฏิบัติให้แตกต่างกัน
                  การปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมต้องไม่ยึดหลักการปฏิบัติกันมายาวนานเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาความถูกต้อง

                  แต่จะต้องใช้หลักความยุติธรรมของประชาชนในปัจจุบันเป็นเกณฑ์การพิจารณา เช่น สถาบันการศึกษาของรัฐ
                  แห่งหนึ่งได้ตั้งมาเป็นเวลายาวนาน ในขณะที่ตั้งนั้นมีความมุ่งหมายเพื่อจะให้เฉพาะลูกหลานของข้าราชการ
                  เท่านั้นได้ศึกษาเล่าเรียน ต่อมาเมื่อการศึกษาเปิดกว้างขึ้นสําหรับการรับบุคคลอื่นเข้าศึกษา แต่สถาบันนี้

                  ยังกําหนดไว้ว่าผู้ที่เป็นข้าราชการของหน่วยงานนั้น ย่อมได้รับสิทธิพิเศษในการคัดเลือกเข้าศึกษาในสถาบัน
                  แห่งนั้น ในกรณีนี้ จะเห็นได้ว่าการยึดถือประเพณีที่ปฏิบัติมาอย่างยาวนานของสถาบันการศึกษาแห่งนั้นไม่
                  อาจจะใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาหลักความเสมอภาคได้ เพราะการพิจารณาหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะต้องอาศัย
                  หลักความยุติธรรมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเป็นต้น (บรรเจิด สิงคะเนติ, 2543: 22)
                            จากการศึกษาทบทวนแนวคิดเกี่ยวกับความเสมอภาคในสังคมดังกล่าวมาแล้ว สําหรับการวิจัย

                  ในครั้งนี้ คณะผู้วิจัยจึงสรุปความหมายของความเสมอภาคในสังคมไว้ว่า “ความเสมอภาคในสังคม (Social
                  equality) หมายถึง ความเท่าเทียมของมนุษย์ทุกคนในการได้รับสิทธิพื้นฐานตามหลักสิทธิมนุษยชนโดยผ่าน
                  การปฏิบัติต่อกันระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์ด้วยความเคารพต่อสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52