Page 524 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 524
ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยรัฐนําที่ดินของรัฐหรือที่ดินที่รัฐจัดซื้อหรือเวนคืนมาดําเนินการจัดให้แก่
เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรเช่าซื้อ เช่า หรือเข้าทําประโยชน์ โดยรัฐให้ความช่วยเหลือในการพัฒนา
ั
อาชีพเกษตรกรรม การปรับปรุงทรัพยากรและปจจัยการผลิต ตลอดจนการผลิตและการจําหน่ายให้
เกิดผลดียิ่งขึ้น กรณีนี้ ส.ป.ก จึงมีอํานาจนําที่ดินดังกล่าวมาจัดให้แก่เกษตรกรได้ ซึ่งรวมถึงการเข้าไป
พัฒนาที่ดินซึ่งเป็นการดําเนินการอื่นๆ ตามกระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย
6.15 เรื่องเสร็จที่ 128/2548 เรื่อง ปัญหาการจัดที่ดินของนิคมสหกรณ์ลํ้าเข้าไปในแนว
เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 7) ได้พิจารณาในประเด็นเกี่ยวกับการจัดที่ดินของนิคม
สหกรณ์ลํ้าเข้าไปในแนวเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามมาตรา 36 ทวิ พระราชบัญญัติการปฏิรูป
ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532 มีความเห็นว่า เมื่อคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมีมติให้ ส.ป.ก.
นําเอาที่ดินที่คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติมอบให้มาดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การ
ได้รับที่ดินดังกล่าวมายังไม่อาจถือได้ว่า ส.ป.ก. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ตามมาตรา 36 ทวิ แห่ง
พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพี่อเกษตรกรรมฯ เพราะ ส.ป.ก. ยังไม่ได้เข้าไปดําเนินการปฏิรูปที่ดิน
เพื่อเกษตรกรรมในที่ดิน นอกจากนี้ มติของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมอยู่บนพื้น
ฐานข้อมูลว่าที่ดินดังกล่าวมิได้มีหน่วยงานใดของรัฐ เข้าไปดําเนินการและมีความเหมาะสมที่จะนํามา
ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้ ต่อมาเมื่อมีการสํารวจที่ดินจึงพบว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เข้าไป
ดําเนินการจัดที่ดินในบางส่วนให้แก่ประชาชนแล้ว จึงเป็นเรื่องที่ ส.ป.ก. ยังมิได้เข้าไปดําเนินการปฏิรูป
ที่ดินและไม่อาจดําเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้เพราะมีหน่วยงานอื่นของรัฐดําเนินการใน
พื้นที่อยู่ก่อน เมื่อ ส.ป.ก. รายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ทราบ ก็อาจมีมติแก้ไขมติเดิมให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความเป็นจริงและส่งพื้นที่ดังกล่าวคืนให้แก่
คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติเพื่อให้มีมติส่งมอบพื้นที่ให้แก่กรมส่งเสริมสหกรณ์ต่อไปได้
6.16 เรื่องเสร็จที่ 307/2549 บันทึกเรื่อง สถานะของป่าสงวนแห่งชาติในบริเวณที่มีการ
กําหนดเขตปฏิรูปที่ดิน
่
คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 7) ได้พิจารณาข้อหารือของกรมที่ดินเกี่ยวกับพื้นที่ปาไม้
่
ถาวรและปาสงวนแห่งชาติซึ่งได้มีพระราชกฤษฎีกากําหนดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน โดยคณะกรรมการ
่
กฤษฎีกาเห็นว่าพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปจะมีผลเป็นการเพิกถอนปาสงวนแห่งชาติตาม
มาตรา 26 (4) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532 ก็ต่อเมื่อมีองค์ประกอบครบ 2
่
ประการคือ คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดําเนินการปฏิรูปที่ดินในเขตปาสงวนแห่งชาตินั้น และสํานักงานการ
ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จะนําที่ดินนั้นไปดําเนินการปฏิรูปที่ดินด้วย หากข้อเท็จจริง
8‐89