Page 519 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 519
แล้ว และ ส.ป.ก. มีแผนงานพร้อมทั้งงบประมาณเพียงพอที่จะดําเนินการได้ทันที พระราชกฤษฎีกา
่
กําหนดเขตปฏิรูปที่ดินดังกล่าวก็จะมีผลเป็นการเพิกถอนปาสงวนแห่งชาติเฉพาะที่ดินในแปลงนั้น
6.8 เรื่องเสร็จที่ 150/2539 บันทึกเรื่อง การขอใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเฉพาะส่วนที่
สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ไม่ประสงค์จะดําเนินการปฏิรูป
คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะที่ 2) เห็นว่า เมื่อกระทรวงมหาดไทย
ได้รับหนังสือยืนยันจาก ส.ป.ก. ว่า ไม่ประสงค์จะใช้ที่ดินที่ถูกถอนสภาพเพื่อการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรมตลอดไปกระทรวงมหาดไทยย่อมมีอํานาจให้ทบวงการเมืองเข้าใช้ประโยชน์ในราชการหรือ
ดําเนินการขึ้นทะเบียนให้ทบวงการเมืองใช้ประโยชน์ได้ พระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที่ดินเป็น
กฎหมายที่ให้อํานาจ ส.ป.ก. เข้าดําเนินการปฏิรูปแต่ไม่มีผลเป็นการลบล้างอํานาจอํานาจที่กระทรวง
ทบวง กรม เคยมีอยู่ตามกฎหมายอื่น สําหรับที่เขาและที่ภูเขา ที่อยู่ในเขตปฏิรูปถ้าพนักงานเจ้าหน้าที่
ผู้มีอํานาจตามกฎหมายได้รับหนังสือยืนยันจาก ส.ป.ก. ว่าไม่ประสงค์จะนํามาปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม และไม่ขัดข้องที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะใช้อํานาจตามกฎหมาย พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม
ประมวลกฎหมายที่ดินย่อมมีอํานาจอนุญาตให้ระเบิดและย่อยหินที่เขา ที่ภูเขาได้ ( เวียนตามหนังสือ
กระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0618/ว 1334 ลงวันที่ 26 เมษายน 2539 )
6.9 เรื่องเสร็จที่ 287/2539 บันทึกเรื่อง อํานาจในการจัดการชุมชนในเขตปฏิรูป
ที่ดิน และการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินส่วนที่สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม ไม่ประสงค์จะดําเนินการปฏิรูปที่ดิน
คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะที่ 7) ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับอํานาจ
จัดการชุมชนชนบทและชุมชนเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินโดยอาศัยอํานาจตามพระราชบัญญัติการ
ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ของสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมว่า การปฏิรูป
ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นการดําเนินการเพื่อช่วยให้เกษตรกรมีที่ดินทํากิน และให้การใช้ที่ดินเกิด
ประโยชน์มากที่สุด พร้อมกับการจัดระบบการผลิตและการจําหน่ายผลิตผลเกษตรกรรมเพื่อให้ความ
เป็นธรรมแก่เกษตรกร ดังนั้นการจัดที่อยู่อาศัยตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 จึงหมายถึงการจัดที่อยู่
อาศัยในที่ดินที่มีการประกอบเกษตรกรรม หรือกิจการอื่นที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการ
ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามมาตรา 30 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่
3) พ.ศ. 2532 ส่วนการตั้งบ้านเรือนในลักษณะที่เป็นชุมชนอยู่นอกเหนือวัตถุประสงค์ของการปฏิรูป
ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และมีกฎหมายบัญญัติให้เป็นอํานาจหน้าที่ของส่วนราชการอื่นอยู่แล้ว ดังนั้น ส.
ป.ก. จึงไม่มีอํานาจเข้าไปจัดการหรือดําเนินการในที่ดินบริเวณดังกล่าว แม้ว่าจะอยู่ภายในเขตปฏิรูป
ที่ดินก็ตาม
8‐84