Page 527 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 527

สาธารณะเกินความเป็นจริง และไม่เป็นธรรมต่อราษฎรที่ถือครองมายาวนาน มีการต่อสู้ขัดแย้งอย่าง

                     มากในช่วงแรกเป็นเวลาหลายปี จนต่อมามีการอนุมัติให้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) ดําเนินการ
                     จัดสรรที่ดินร่วมกับ ส.ป.ก. โดยประกาศเขตปฏิรูปที่ดินในพื้นที่บางส่วนของแปลงทุ่งคลองปุด  ทุ่งหาด
                     ทรายขาว ทุ่งบ่อนิง จํานวน 3,653  ไร่ ซึ่งทับซ้อนที่ทํากินเดิมของผู้ร้องกลุ่มที่ 1    และจัดที่ดินให้แก่ผู้

                     ยินยอมอพยพครอบครัวละ 5 ไร่ ทําให้ชาวบ้านจํานวนมากไม่ยินยอมเพราะที่ดินเดิมมีมากกว่า 5 ไร่
                     และบางรายมีใบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1)  แต่ในที่สุดชาวบ้านทั้งสองพื้นที่จํายอมรับที่ดิน
                     ครอบครัวละ 5  ไร่  ไปจํานวนมาก โดยในบริเวณที่ก่อสร้าง มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) ยังมีผู้ไม่

                     ยินยอมอพยพ 32 ราย และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) กําลังดําเนินคดีอยู่ในศาล ส่วนผู้ร้องกลุ่มที่
                     1 จํานวน 11 รายที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินก็ยังไม่ยินยอมเช่นกัน
                                                                                      ่
                             จากการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการสิทธิในการจัดการที่ดินและปา ชุดที่ 3 พบว่า พื้นที่
                     พิพาทเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ทุ่งคลองปุด ทุ่งหาดทรายขาว ทุ่งบ่อนิง ซึ่งตามทะเบียน มีเนื้อที่
                     7,773 ไร่   เมื่อมีการออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง (นสล.) กลายเป็นมีเนื้อที่ 11,335  ไร่ และที่

                     สาธารณประโยชน์ทุ่งบ้านไผ่ ซึ่งมีเนื้อที่ตามทะเบียน 1,681  ไร่ เมื่อมีการออกหนังสือสําคัญสําหรับที่
                     หลวง (นสล.) กลายเป็นมีเนื้อที่ 1,911 ไร่ ต่อมามีการประกาศเขตปฏิรูปที่ดินในพื้นที่
                     สาธารณประโยชน์ดังกล่าว ทําให้อํานาจในการจัดและดูแลที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเป็นอํานาจของ
                     คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินระดับจังหวัด (คปจ.) ในการพิจารณาคัดเลือกบุคคล การพัฒนาปรับปรุงพื้นที่

                     ให้เหมาะสม และการจัดผังลงแปลง แต่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินระดับจังหวัด (คปจ.) มิได้ดําเนินการ
                     ตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการ

                     คัดเลือกเกษตรกร พ.ศ. 2535 ที่ประกาศเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2535 ซึ่งเกษตรกรจะมีสิทธิได้รับที่ดิน
                     จากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แต่ก็มอบให้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) ดําเนินการโดยมิได้มี
                     กระบวนการดําเนินการตามหลักเกณฑ์ของสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และ ส.
                                                       ั
                     ป.ก. ก็ได้เห็นชอบกับ มวล.จนทําให้เกิดปญหาสับสนและทับซ้อนในพื้นที่ เช่น
                                1. ผู้ที่มีใบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) และ ส.ป.ก.
                                   ไม่ได้มีการตรวจสอบให้ชัดเจนว่าผู้ที่มีใบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) มีสิทธิใน

                                   การครอบครองดีกว่า
                                2. คนที่ครอบครองอยู่เดิม ไม่ได้รับการพิจารณาตามเกณฑ์สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
                                   เกษตรกรรม (ส.ป.ก.)  ซึ่งแม้จะอยู่ในที่ดินของรัฐสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อ

                                   เกษตรกรรม (ส.ป.ก.)  ก็จะพิจารณาจากการครอบครองทําประโยชน์ในที่ดินอยู่เดิม
                                   ก่อน หากมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ ส.ป.ก. จะได้รับการจัดสรรไม่เกินครอบครัวละ 50
                                   ไร่ แต่ในกรณีนี้กลับได้รับการจัดสรรครอบครัวละ 5 ไร่ เท่ากับผู้ที่ถูกอพยพจากที่ตั้ง

                                   มวล.












                                                                                                     8‐92
   522   523   524   525   526   527   528   529   530   531   532