Page 522 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 522
ของกระทรวงมหาดไทย (กรมที่ดิน) ว่า ไม่มีบทบัญญัติมาตราใดกําหนดห้ามมิให้เดินสํารวจรังวัดเพื่อ
ออกโฉนดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แต่การที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะออกหนังสือแสดง
สิทธิในที่ดินให้แก่ราษฎรที่ครอบครองและทําประโยชน์อยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับได้
นั้น จะต้องปรากฏว่าราษฎรรายนั้นได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้
ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 หรือได้แจ้งความประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินตามมาตรา 27 ตรี แห่ง
ประมวลกฎหมายที่ดินไว้ก่อนมีการกําหนดเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา
(คณะที่ 7) มีความเห็นสอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย) ทั้ง
สองดังกล่าวและถูกต้องกับหลักกฎหมายแล้ว
อนึ่ง คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 7) มีความเห็นพ้องกับความเห็นของคณะกรรมการ
กฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะที่ 2 ) ที่ได้เคยมีความเห็นเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การปฏิรูปที่ดิน
เพื่อเกษตรกรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีขอบเขตการดําเนินการที่ชัดเจน หาก ส.ป.ก. ไม่
ประสงค์ที่จะนําที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ถูกถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสําหรับ
พลเมืองใช้ร่วมกันไปดําเนินการปฏิรูปที่ดินแล้ว ก็สมควรที่จะได้มีการประสานงานระหว่างหน่วย
ราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อตราพระราชกฤษฎีกากันพื้นที่ที่ ส.ป.ก. ไม่ประสงค์จะนํามาปฏิรูปที่ดินออก
จากเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและให้หน่วยราชการที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงสามารถเข้าไป
ดําเนินการได้ประกอบกับข้อเท็จจริงของข้อหารือของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในเรื่องนี้ กระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ได้มีคําสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ 223/2544 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อ
พิจารณากันเขตที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินที่ ส.ป.ก. ไม่ประสงค์จะดําเนินการออกจากเขตปฏิรูปที่ดิน ลง
วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทย (กรมที่ดิน) และ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) เพื่อพิจารณากันที่ดินที่
ส.ป.ก. ไม่ประสงค์จะดําเนินการออกจากเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เมื่อกระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์ได้มีการดําเนินการตั้งคณะกรรมการฯพิจารณากันเขตที่ดินที่ ส.ป.ก. ไม่ประสงค์เข้าดําเนินการ
แล้ว ส.ป.ก. ก็ควรดําเนินการตราพระราชกฤษฎีกากันพื้นที่ที่ ส.ป.ก. ไม่มีแผนและไม่ประสงค์จะนํามา
ปฏิรูปที่ดินออกจากเขตปฏิรูปที่ดินฯ และให้หน่วยราชการที่มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าดําเนินการ
ต่อไป
6.13 เรื่องเสร็จที่ 425/2546 บันทึก เรื่อง การปรับปรุงเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 7) ได้พิจารณาในประเด็นเกี่ยวกับการปรับปรุงเขตปฏิรูป
ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามมาตรา 25 มาตรา 36 พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.
2518 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532 มี
ความเห็นว่า การกันเขตที่ดินที่ ส.ป.ก. (ส.ป.ก) ไม่ได้ใช้เป็นเขตดําเนินการปฏิรูปที่ดินออกจากเขต
ปฏิรูปที่ดิน ย่อมกระทําได้โดยการตรากฎหมายที่มีลําดับชั้นสูงกว่า หรือการตราพระราชกฤษฎีกาโดย
อาศัยอํานาจตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ซึ่งแก้ไข
8‐87