Page 528 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 528
3. ผู้เดือดร้อนทุกกลุ่มที่เป็นครอบครัวขยาย ไม่ได้รับการจัดสรรที่ดิน ทั้งที่มีหลักเกณฑ์
ส.ป.ก. ว่า ครอบครัวที่มีบุคคลที่บรรลุนิติภาวะจะต้องได้รับการจัดสรรที่ดินเพิ่มอีก 1
แปลง
ดังนั้น เมื่อ มวล.ส่งมอบผังการจัดแปลงดังกล่าวให้กับคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินระดับจังหวัด
(คปจ.) โดยคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินระดับจังหวัด (คปจ.) ไม่ได้พิจารณารายละเอียดตามเกณฑ์
ั
ส.ป.ก. และกลับดําเนินการตามที่ มวล. เสนอ จึงส่งผลให้เกิดปญหาดังกล่าวขึ้น
การที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) และกล่าวอ้างว่า ที่ดิน นสล. ทั้ง 3 แปลงที่ยกให้
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) มีสิทธิในที่ดินทั้ง 3 แปลงนั้น แต่
เมื่อมีการมอบพื้นที่ 3,653 ไร่ ให้ ส.ป.ก. จัดสรรให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และมีพระราชกฤษฎีกา
ประกาศเขตปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว พื้นที่นั้นจึงตกเป็นของสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ตามกฎหมายปฏิรูปที่ดิน ดังนั้นมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) และจะอ้างสิทธิ
เหนือที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินไม่ได้
่
คณะอนุกรรมการสิทธิในการจัดการที่ดินและปา ชุดที่ 3 จึงมีความเห็นว่า การจัดที่ดินให้กับ
ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากการตั้งมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ในเขตปฏิรูปที่ดิน มีการละเมิดสิทธิบุคคล
และชุมชน และมีการกระทําที่ไม่เป็นธรรม
รายงานผลการตรวจสอบที่ 479/2552 เรื่อง สิทธิชุมชน กรณีสํานักงานปฏิรูปที่ดิน
จังหวัดหนองบัวลําภู ออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01)
ทับที่ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่ผาจันได ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลําภู
่
่
ผู้ร้องเป็นประธานกรรมการปาชุมชนและราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ปา (ร.ส.ท.ป.) รุ่นที่ 6/48
่
คณะกรรมการปาชุมชนเขาเหล่าใหญ่ผาจันได บ้านผาซ่อนและบ้านโชคชัย ตําบลดงมะไฟ อําเภอ
สุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลําภู ได้ร้องเรียนว่า สํานักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดหนองบัวลําภูได้ออก
่
หนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ (ส.ป.ก. 4-01) แปลงที่13 ให้กับนายไพฑูรย์ วงศ์คําจันทร์ ทับที่ปา
่
ชุมชนบางส่วน ซึ่งพื้นที่ที่เป็นปาชุมชนที่พิพาทดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่เคยเป็นหัวไร่ปลายนาของที่ดินของ
ชาวบ้านจํานวน 4 ราย ผู้ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ (ส.ป.ก. 4-01) แปลงที่ 4 5 6 และ 7
ซึ่งเดิมก่อนออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ (ส.ป.ก. 4-01) ลักษณะของที่ดินทั้ง 4 แปลง รวมทั้ง
่
ั
แปลงที่ 13 มีพื้นที่จดเขตแดนปาอนุรักษ์ โดยปญหาเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2537 เมื่อเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดิน
ได้ดําเนินการรังวัดเพื่อออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ (ส.ป.ก. 4-01) ให้กับชาวบ้าน โดย
เจ้าของที่ดินแปลงที่ 4 5 6 และ7 ไม่สามารถออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ (ส.ป.ก. 4-01) ได้
่
่
ถึงเขตปาอนุรักษ์เพราะเจ้าหน้าที่สํานักงานปฏิรูปที่ดิน อ้างว่าเป็นปาไม้หนาแน่นไม่สามารถหนังสือ
อนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ (ส.ป.ก. 4-01) ได้ ซึ่งเจ้าของที่ดินทั้ง 3 รายก็ยอมรับตามความเห็นนั้น
่
ต่อมาปี 2542 ชาวบ้านได้ประชุมจัดตั้งปาชุมชน โดยขอความยินยอมจากเจ้าของที่ดินที่ติดกับผาฮวก
่
ผาจันได ผานํ้ารอด และปาชุมชน รวมทั้งเจ้าของที่ดินทั้ง 3 แปลง ที่เป็นที่พิพาทด้วย ในปี 2545
8‐93