Page 509 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 509
แปลงนั้น และให้สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) มีอํานาจนําที่ดินแปลงนั้นมาใช้ใน
การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้ และมาตรา 36 ทวิ กําหนดว่า บรรดาที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ใดๆ
ที่ ส.ป.ก. ได้มา ตามพระราชบัญญัตินี้หรือได้มาโดยประการอื่นที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการ
ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไม่ให้ถือว่าเป็นที่ราชพัสดุ และให้ ส.ป.ก. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เพื่อให้ใช้ใน
การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ดังนี้ เมื่อที่ดินพิพาทอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน บุคคลจะมีสิทธิเข้า
ครอบครองได้ก็แต่โดยการได้รับเอกสารสิทธิจาก ส.ป.ก. เมื่อ ส.ป.ก. ยังมิได้อนุญาตให้เป็นผู้มีสิทธิ
เข้าทําประโยชน์ในที่ดินพิพาท จึงยังไม่มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท ทั้งหลังจากยื่นคําขอเข้าทํา
ประโยชน์แล้ว มิได้เข้าครอบครองทําประโยชน์ในที่ดินพิพาท จึงยังไม่มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท
อย่างใด เพียงแต่อ้างว่าได้ไถปรับที่ดินไว้ หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 ปี จึงไปดูที่ดินพบว่า บุคคลอื่น
เข้าไปทําประโยชน์ในที่ดินพิพาทแล้ว การที่อ้างว่าเพียงแต่ไถปรับที่ดินทิ้งไว้ โดยไม่ทําประโยชน์อะไร
นานเป็นปี ถือไม่ได้ว่า ได้ยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทเป็นของตน ในขณะที่บุคคลอื่นเข้าไปทํา
ประโยชน์ และที่ดินพิพาทยังคงเป็นของ ส.ป.ก. จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยที่จะร้องทุกข์ให้ดําเนินคดี
้
แก่จําเลยฐานบุกรุกตามฟองซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัว พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอํานาจสอบสวนตาม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 121 วรรคสอง
5.5 คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 6491/2550 วินิจฉัยว่า บุคคลผู้มีสิทธิหรือทําประโยชน์ในเขตปา ่
่
สงวนแห่งชาติก่อนกฎกระทรวงประกาศให้เป็นเขตปาสงวนแห่งชาติ แต่ไม่มีสิทธิในที่ดินตามประมวล
่
กฎหมายที่ดิน มีสิทธิเพียงได้รับค่าทดแทนตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติปาสงวนแห่งชาติ พ.ศ.
2507 เท่านั้น หาได้มีสิทธิในที่ดินที่ตนครอบครองทําประโยชน์อยู่ไม่ และต้องยื่นคําร้องที่อ้างว่า มี
่
่
สิทธิหรือได้ทําประโยชน์ในเขตปาสงวนแห่งชาติอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงกําหนดเขตปาสงวนแห่งชาติ
ขึ้นใช้บังคับ โดยยื่นต่อนายอําเภอภายใน 90 วัน นับแต่วันที่กฎกระทรวงนั้นใช้บังคับ ถ้าไม่ยื่นคําร้อง
ต่อนายอําเภอภายในกําหนดดังกล่าวให้ถือว่าสละสิทธิหรือประโยชน์นั้น
พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 19 (7) บัญญัติให้
คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมีอํานาจหน้าที่และความรับผิดชอบในการกําหนด
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกเกษตรกรซึ่งจะมีสิทธิได้รับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อ
เกษตรกรรม คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจึงได้ออกระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน
เพื่อเกษตรกรรมว่าด้วยการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทําประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2536 ซึ่ง
ตามระเบียบดังกล่าวข้อ 9 กําหนดให้เลขาธิการมีอํานาจเพิกถอนหนังสืออนุญาตได้ ดังนั้นเลขาธิการ
สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจึงมีอํานาจออกคําสั่งเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้เข้าทํา
ประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ตได้
5.6 คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 6492/2550 วินิจฉัยว่า เจ้าของเดิมครอบครองที่ดินพิพาทมา
ตั้งแต่ปี 2498 ภายหลังประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับแล้ว เจ้าของเดิมรับโอนการครอบครองมา
8‐74