Page 74 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง ปัญหาและมาตรการทางกฎหมายในการรับรองและคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
P. 74
๕๙
parlementaires) หนึ่งครั้งในทุกๆ หกเดือนเกี่ยวกับสภาพการใช้บังคับ และจัดท่ารายงานต่อ
คณะกรรมาธิการในแต่ละเดือนเกี่ยวกับมาตรการที่ได้ด่าเนินการไป คณะกรรมาธิการจะพิจารณา
โดยอิสระอย่างเต็มที่เกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายและความจ่าเป็นของการด่าเนินมาตรการนั้น
โดยนัยดังกล่าวข้างต้น ศาลจึงเห็นว่าการด่าเนินมาตรการดังกล่าวซึ่งกระทบต่อสิทธิในชีวิตส่วนตัวของ
บุคคล อยู่ภายใต้การตรวจสอบควบคุมที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าการตรวจสอบควบคุมนั้นจะมิใช่การ
ตรวจสอบควบคุมโดยศาลก็ตาม เนื่องจากคณะอนุกรรมาธิการและคณะกรรมาธิการตามที่กฎหมาย
สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีก่าหนดนั้นมีความเป็นอิสระจากองค์กรของรัฐที่ออกค่าสั่งให้ด่าเนินมาตรการ
เฝ้าสังเกตการณ์ และมีอ่านาจเพียงพอที่จะท่าการตรวจสอบควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ศาลจึงวินิจฉัย
ว่าการด่าเนินมาตรการดังกล่าวขององค์กรของรัฐชอบด้วยกฎหมาย เป็นสิ่งจ่าเป็นในสังคมประชาธิปไตย
ต่อความปลอดภัยของประชาชน การคุ้มครองความสงบเรียบร้อยและการป้องกันการกระท่าความผิด
ทางอาญาตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในวรรคสองของข้อ ๘ ของอนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิ
มนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน
(๒) กรณีการตรวจดูจดหมายของผู้ต้องขัง (le secret de la correspondance
écrite des détenus)
ตามค่าวินิจฉัยของศาลแห่งยุโรปด้านสิทธิมนุษยชนในคดี Campbell
๗๘
c/Royaume-Uni เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๑๙๙๒ ผู้ร้องซึ่งถูกลงโทษจ่าคุกตลอดชีวิต (condamné à la
prison à vie) ฐานฆ่าคนตาย (l’assassinat) ได้ร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่ดี (de mauvais
traitements) จากผู้ดูแลเรือนจ่า (de gardiens de prison) ศาลได้ตัดสินว่าการเปิดอ่านจดหมายระหว่าง
ทนายความและผู้ต้องขังโดยเจ้าหน้าที่เรือนจ่า (les autorités pénitentiaires) เป็นการกระท่าอันเป็น
การแทรกแซงสิทธิของบุคคลที่จะได้รับการเคารพในการติดต่อทางจดหมาย แม้การด่าเนินการดังกล่าว
จะมีกฎหมายบัญญัติให้กระท่าได้และมีวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
และการป้องกันการกระท่าความผิดทางอาญา แต่อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นว่าการด่าเนินการเช่นนั้น“มิใช่”
สิ่งจ่าเป็นในสังคมประชาธิปไตยต่อวัตถุประสงค์ที่มุ่งหมายนั้น เนื่องจากจดหมายของผู้ต้องขังมีสถานะที่
จะต้องได้รับสิทธิพิเศษ (un statut privilégié) ศาลให้เหตุผลว่าจดหมายของผู้ต้องขังที่มีไปถึงทนายความ
ของตนจะถูกเปิดอ่านโดยเจ้าหน้าที่ของเรือนจ่าได้ก็เฉพาะแต่ในกรณีที่เป็นข้อยกเว้นซึ่งมีเหตุอันสมควรที่
จะเชื่อว่าจดหมายนั้นมีเนื้อหาที่เป็นการคุกคามความปลอดภัยขององค์กรหรือบุคคลอื่น (le contenu de
la lettre menace la sécurité de l’établissement ou d’autrui) หรือที่มีลักษณะเป็นความผิด (le
caractère délictueux) เท่านั้น ดังนั้น เจ้าหน้าที่เรือนจ่าจะสามารถเปิดจดหมายที่ทนายความมีไปถึง
ผู้ต้องขังได้ก็เฉพาะแต่เมื่อเจ้าหน้าที่มีเหตุผลอันน่าจะเชื่อได้ (des motifs plausibles) ว่าจดหมายนั้นจะ
๗๘ Arrêt Campbell, 25 mars 1992, Volume n° 233 de la série A, § 8 et 9 V. F. SUDRE, J. C. P. 1993, I,
3654, n° 23.