Page 71 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง ปัญหาและมาตรการทางกฎหมายในการรับรองและคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
P. 71
๕๖
๗๖
ค่าวินิจฉัยในคดี Malone เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๑๙๘๔ และค่าวินิจฉัยในคดี Kruslin et Huvig เมื่อ
วันที่ ๒๔ เมษายน ๑๙๙๐ ในที่นี้ จะขอยกตัวอย่างเฉพาะคดี Klass เท่านั้น
ในคดี Klass ผู้ร้องร้องต่อศาลแห่งยุโรปด้านสิทธิมนุษยชนว่าการที่องค์กร
ของรัฐ (รัฐบาล) ท่าการดักฟังข้อมูลทางโทรศัพท์ (des écoutes gouvernementales) เกี่ยวกับผู้ร้อง
เป็นการกระท่าอันเป็นการแทรกแซงสิทธิในชีวิตส่วนตัวและสิทธิในชีวิตส่วนตัวเกี่ยวกับการติดต่อทาง
จดหมายของตนตามที่ก่าหนดคุ้มครองไว้ในข้อ ๘ ของอนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิ
มนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน และมาตรา ๑๐ วรรคสอง แห่งกฎหมายสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
และกฎหมายภายในอีกฉบับหนึ่งลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๑๙๖๘ ซึ่งได้ตราขึ้นเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อ
๘ ของอนุสัญญาแห่งยุโรปฯ
ศาลแห่งยุโรปด้านสิทธิมนุษยชนวินิจฉัยในประเด็นข้อกฎหมายเบื้องต้น
ว่าค่าร้องดังกล่าวศาลสามารถรับไว้พิจารณาได้หรือไม่ (la recevabilité de la requête) ในประเด็นนี้
ศาลเห็นว่าการที่จะร้องว่าเป็นเหยื่อหรือผู้ได้รับผลกระทบจากการฝ่าฝืนสิทธิประการหนึ่งประการใดที่
บัญญัติรับรองและคุ้มครองไว้ในอนุสัญญาแห่งยุโรปนั้น จะกล่าวอ้างแต่เพียงว่าการตรากฎหมายที่
เกี่ยวข้องขัดต่อสิทธิที่บุคคลได้รับความคุ้มครองตามอนุสัญญาแห่งยุโรป หากแต่การใช้บังคับกฎหมายนั้น
ยังก่อให้เกิดความเสียหายแก่ตนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ศาลยอมรับข้อยกเว้นแห่งหลักดังกล่าว เนื่องจาก
การด่าเนินมาตรการดังกล่าวในทางลับดังเช่นในกรณีนี้ผู้ร้องย่อมไม่สามารถที่จะน่าสืบหลักฐานที่
เกี่ยวข้องได้
ศาลแห่งยุโรปด้านสิทธิมนุษยชนวินิจฉัยต่อไปในประเด็นที่เป็นเนื้อหา
แห่งคดีว่า กล่าวคือ บทบัญญัติมาตรา ๑๐ วรรคสอง แห่งกฎหมายสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และ
กฎหมายภายในฉบับลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๑๙๖๘ ที่ก่าหนดมาตรการดังกล่าวนั้นเป็นไปตามเงื่อนไขแห่ง
ข้อ ๘ ของอนุสัญญาแห่งยุโรปฯ หรือไม่ มาตรา ๑๐ แห่งกฎหมายสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี บัญญัติว่า
(๑) “ห้ามมิให้ละเมิดความลับเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร พัสดุไปรษณีย์ และโทรคมนาคม (๒) ข้อจ ากัด
แห่งข้อห้ามดังกล่าวจะกระท าได้ก็ต่อเมื่อมีฐานทางกฎหมายรองรับในกรณีที่ข้อจ ากัดนั้นมีวัตถุประสงค์
เพื่อคุ้มครองความสงบเรียบร้อยและเสรีภาพทางประชาธิปไตยหรือการด ารงอยู่หรือความปลอดภัยของ
สหพันธรัฐหรือประเทศ กฎหมายนั้นอาจก าหนดให้ไม่จ าต้องชี้แจงแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง และให้การควบคุม
โดยองค์กรของรัฐที่ได้รับมอบอ านาจจากประชาชนแทนที่การร้องขอต่อศาล ”บทบัญญัตินี้เองและการใช้
บังคับกฎหมายภายในที่ตราขึ้นตามกฎหมายฉบับนี้ที่ผู้ร้องกล่าวอ้างว่าขัดต่อข้อ ๘ ของอนุสัญญาแห่ง
ยุโรปฯ
๗๖
Arrêt Malone, 2 août 1984, obs. L.-E. PETTITI et F. TEITGEN, Rev. sc. crim. 1985, p. 145; G.
COHEN-JONATHAN, Les « écoutes téléphoniques », Protection des droits de l’homme: la dimension
européenne, Mélanges G.-J. Wiarda, p. 17.