Page 73 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง ปัญหาและมาตรการทางกฎหมายในการรับรองและคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
P. 73

๕๘


                   แต่ทั้งนี้  มาตรการดังกล่าวจะต้องจ่ากัดอยู่แต่เฉพาะผู้ต้องสงสัยและบุคคลที่สันนิษฐานว่ามีความ

                   เกี่ยวข้อง  ตลอดจนบุคคลที่สามารถรับหรือส่งต่อการติดต่อสื่อสารนั้นเท่านั้น  ซึ่งเป็นกรณีตามเรื่อง
                   ร้องเรียนนี้ เนื่องจากกฎหมายแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีดังกล่าวมิได้ก่าหนดมาตรการเช่นนั้นใน

                   ลักษณะเป็นการทั่วไป นอกจากนี้ การด่าเนินมาตรการเช่นนั้นจะร้องขอได้ก็เฉพาะแต่หัวหน้างานด้าน

                   การคุ้มครองรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธรัฐ (le chef des offices de protection de la Constitution de la
                   Fédération) หัวหน้างานด้านความปลอดภัยแห่งกองทัพและงานด้านข้อมูลแห่งสหพันธรัฐ  (le chef du

                   service de la sécurité de l’armée et du service fédéral des renseignements)  หรือผู้แทน  และ
                   กระท่าได้ก็แต่เพียงตามค่าสั่งการของรัฐมนตรีแห่งสหพันธรัฐซึ่งได้รับมอบอ่านาจของรัฐมนตรีด้าน

                   มหาดไทยและด้านกลาโหมจากนายกรัฐมนตรี (le Chancelier) ซึ่งจะต้องออกค่าสั่งด้วยตนเองหรือโดย
                   องค์กรระดับสูง (l’autorité supreme)  ของประเทศ โดยนัยดังกล่าว  ศาลจึงเห็นว่ามีการก่าหนดกระบวนการ

                   ทางปกครอง (une procédure administrative) ที่ป้องกันมิให้มีการด่าเนินมาตรการดังกล่าวตามอ่าเภอใจ

                   โดยไม่ชอบ หรือโดยปราศจากการศึกษาอย่างเพียงพอ อีกทั้งมาตรการดังกล่าวจะก่าหนดให้ด่าเนินการ
                   ได้เป็นระยะเวลาไม่เกินสามเดือน และจะสามารถด่าเนินการต่อไปได้ก็เฉพาะต่อเมื่อมีการร้องขอมาใหม่

                   เท่านั้น และให้ยกเลิกการด่าเนินมาตรการดังกล่าวทันทีที่เงื่อนไขแห่งการด่าเนินมาตรการนั้นหมดสิ้นไป

                   หรือไม่มีความจ่าเป็นอีกต่อไป ด้วยเหตุผลประการต่างๆ  ดังกล่าวข้างต้น  ศาลจึงวินิจฉัยว่ามาตรการดักฟัง
                   ข้อมูลทางโทรศัพท์ตามที่กฎหมายสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ก่าหนดนั้นเป็นสิ่งจ่าเป็นในสังคม

                   ประชาธิปไตยต่อความปลอดภัยแห่งรัฐ  การคุ้มครองความสงบเรียบร้อย  และการป้องกันการกระท่า

                   ความผิดทางอาญา
                                         ในส่วนที่ว่าการด่าเนินมาตรการดังกล่าวอยู่ภายใต้การตรวจสอบควบคุม

                   หรือไม่นั้น ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ผู้ร้องวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่าการตรวจสอบควบคุมเป็นการ
                   ตรวจสอบควบคุมทางการเมือง  (le  contrôle  politique)  หากแต่การตรวจสอบควบคุมทางศาล

                   (le contrôle judiciaire) เป็นเพียงการตรวจสอบควบคุมรูปแบบเดียวที่สามารถจ่ากัดว่าการกระท่าของ

                   องค์กรของรัฐอันเป็นการแทรกแซงสิทธิในชีวิตส่วนตัวและสิทธิในชีวิตส่วนตัวเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร
                   ของบุคคลนั้นเป็นสิ่งที่จ่าเป็นในสังคมประชาธิปไตย  ต่อประเด็นปัญหานี้  ศาลได้พิจารณาในเบื้องต้นว่า

                   ภายหลังการด่าเนินมาตรการดังกล่าวแล้วจะมีการตรวจสอบควบคุมในชั้นต้น  (l’examen préalable)
                   โดยเจ้าหน้าที่ที่มีคุณสมบัติที่สามารถสอบคัดเลือกเข้าเป็นผู้พิพากษาได้  (un fonctionnaire possédant

                   les qualifications requises pour accéder à la magistrature) ซึ่งท่าการศึกษาข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับและ

                   พิจารณาว่าข้อมูลนั้นได้ถูกน่าไปใช้โดยชอบด้วยกฎหมายและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่มาตรการ
                   ดังกล่าวมุ่งหมายหรือไม่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่นั้นยังประสานเฉพาะแต่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณา

                   แก่องค์กรที่มีอ่านาจหน้าที่เท่านั้นและท่าลายข้อมูลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง  การน่าข้อมูลไปใช้ก็เฉพาะแต่เพื่อ

                   วัตถุประสงค์ที่ก่าหนดไว้เท่านั้น ภายหลังการตรวจสอบควบคุมในชั้นต้นแล้ว  ยังมีการตรวจสอบควบคุม
                   ทางรัฐสภา (un contrôle parlementaire) เกี่ยวกับมาตรการทั้งหลายที่รัฐมนตรีสั่งการให้ด่าเนินการ

                   ตามระยะเวลาที่ก่าหนดอีกด้วย รัฐมนตรีจะต้องรายงานต่อคณะอนุกรรมาธิการ  (un comité de cinq
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78