Page 78 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง ปัญหาและมาตรการทางกฎหมายในการรับรองและคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
P. 78
๖๓
essentiellement privée de la personnalité humaine) “มิได้สัดส่วน” กับวัตถุประสงค์ที่มุ่งหมายซึ่ง
ในที่นื้คือ การคุ้มครองจิตใจ
ต่อมา ศาลแห่งยุโรปได้ยืนยันแนวค่าวินิจฉัยดังกล่าวข้างต้นในคดี Norris
ซึ่งศาลวินิจฉัยเมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๑๙๘๘ และในคดี Modinos c/ Chypre เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๑๙๙๓
อีกด้วย
จากการศึกษาสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวและการคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
ในประเทศต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า สิทธิชีวิตส่วนตัวของบุคคลเป็นสิทธิมนุษยชนที่
ได้รับการรับรองและคุ้มครองในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และอนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการ
คุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขึ้นพื้นฐาน และกฎหมายภายในของประเทศต่างๆ ทุกประเทศ สิทธิใน
ความเป็นอยู่ส่วนตัวมีคุณค่าในระดับรัฐธรรมนูญเลยทีเดียว ดังนั้น บุคคลทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นองค์กรของ
รัฐหรือเอกชนด้วยกันจึงย่อมมีหน้าที่หรือความผูกพันตามกฎหมายที่จะต้องเคารพสิทธิในความเป็นอยู่
ส่วนตัวของบุคคลอื่น และจะต้องไม่กระท่าการอย่างใดๆ อันเป็นการแทรกแซงหรือรุกล้่าสิทธิดังกล่าว
ดังนั้น โดยหลักแล้ว องค์กรของรัฐย่อมจะด่าเนินมาตรการใดๆ อันเป็นการแทรกแซงหรือล่วงละเมิดการ
ใช้สิทธิในชีวิตส่วนตัวของบุคคลมิได้ อันจะเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของปฏิญญาสากลและอนุสัญญา
แห่งยุโรป อย่างไรก็ตาม องค์กรของรัฐอาจมีความจ่าเป็นต้องด่าเนินมาตรการใดๆ เพื่อ “ประโยชน์
สาธารณะ” อันอาจมีผลเป็นการแทรกแซงหรือล่วงละเมิดสิทธิในชีวิตส่วนตัวของบุคคลได้ในบางกรณี
แต่ทั้งนี้ การด่าเนินมาตรการเช่นนั้นโดยองค์กรของรัฐจะกระท่าได้ก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไข
ทั้งสามประการดังที่ได้บัญญัติไว้ในมาตรา ๘ วรรคสอง ของอนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิ
มนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานเท่านั้น ซึ่งได้แก่ การด่าเนินมาตรการนั้นมีกฎหมายบัญญัติให้กระท่าได้
โดยยึดหลักการเข้าถึงข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้อง และการคาดหมายล่วงหน้าได้ถึงผลของการใช้บังคับ
ของกฎหมายที่เกี่ยวกับตน การด่าเนินมาตรการนั้นจะต้องเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ประการหนึ่งประการ
ใดอันเกี่ยวด้วยประโยชน์สาธารณะตามที่บัญญัติไว้ อันได้แก่ ความมั่นคงแห่งรัฐ ความสงบเรียบร้อยและ
ความปลอดภัยของประชาชน ประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ การป้องกันการกระท่าความผิดอาญา
และการคุ้มครองสุขภาพและจิตใจ หรือการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น และการด่าเนินมาตรการ
นั้นจะต้องเป็นสิ่งจ่าเป็นในสังคมประชาธิปไตยและได้สัดส่วนกับการบรรลุวัตถุประสงค์ ที่มุ่งหมายนั้น
โดยยึด “หลักความได้สัดส่วน” ระหว่างการด่าเนินมาตรการนั้นกับผลที่เกิดขึ้นต่อการแทรกแซงสิทธิใน
ชีวิตส่วนตัวของบุคคล หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง เป็นการชั่งน้่าหนักระหว่างประโยชน์สาธารณะกับประโยชน์
ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสิทธิในชีวิตส่วนตัวเป็นส่าคัญ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวมและใน
ขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิในชีวิตส่วนตัวของบุคคลที่เกี่ยวข้องให้น้อยที่สุด