Page 72 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง ปัญหาและมาตรการทางกฎหมายในการรับรองและคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
P. 72
๕๗
ศาลแห่งยุโรปด้านสิทธิมนุษยชนวินิจฉัยเป็นประการแรกว่าการติดต่อทาง
โทรศัพท์ (les communications téléphoniques) รวมอยู่ในสิทธิในชีวิตส่วนตัวของบุคคลเกี่ยวกับ
การติดต่อทางจดหมายที่จะต้องได้รับความคุ้มครองตามข้อ ๘ วรรคหนึ่ง ของอนุสัญญาแห่งยุโรปฯ ศาล
ได้วินิจฉัยต่อไปว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม๑๙๖๘
เป็นไปตามเงื่อนไขต่างๆ ที่ก่าหนดไว้ในวรรคสองของข้อ ๘ หรือไม่ ทั้งนี้ การตีความข้อยกเว้นตามวรรค
๗๗
สองของข้อ ๘ นั้นจะต้อง “ตีความโดยเคร่งครัด” (une interprétation étroite) ศาลได้พิจารณาว่า
การด่าเนินมาตรการขององค์กรของรัฐในการดักฟังข้อมูลทางโทรศัพท์มีกฎหมายก่าหนดรองรับ อีกทั้ง
เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่ก่าหนดไว้โดยเคร่งครัด เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวได้ก่าหนดให้ด่าเนิน
มาตรการดังกล่าวเพื่อต่อสู้กับภยันตรายหรือปกป้องความสงบสุข และการด่ารงอยู่หรือความปลอดภัย
แห่งสหพันธรัฐและประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับการรักษาความมั่นคงแห่งรัฐ การรักษาความสงบเรียบร้อย
และการป้องกันการกระท่าความผิดทางอาญาตามที่บัญญัติไว้ในวรรคสองของข้อ ๘ ของอนุสัญญาแห่ง
ยุโรปฯ
ศาลแห่งยุโรปด้านสิทธิมนุษยชนได้พิจารณาต่อไปว่าการด่าเนินมาตรการ
ดังกล่าวตามที่กฎหมายสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีก่าหนดนั้นเป็นไปตามเงื่อนไขประการที่สามตามข้อ ๘
วรรคสอง กล่าวคือ มาตรการนั้นเป็นสิ่งจ่าเป็นในสังคมประชาธิปไตยต่อการท่าให้บรรลุวัตถุประสงค์นั้น
หรือไม่ ในประเด็นนี้ ศาลเห็นว่าในสังคมประชาธิปไตยในปัจจุบันถูกคุกคามโดยการจารกรรมในรูปแบบ
ที่สลับซับซ้อน (des formes très complexe d’espionnage) และโดยการก่อการร้าย (le terrorisme)
และเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ รัฐจึงควรที่จะสามารถเฝ้าสังเกตการณ์ในทางลับ
ปัจจัยต่างๆ ที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยที่เกิดขึ้นในเขตแดนของตนได้ ดังนั้น จึงต้องหาดุลยภาพ
ระหว่างการใช้สิทธิในชีวิตส่วนตัวของบุคคลที่ได้รับการคุ้มครองตามวรรคหนึ่งของข้อ ๘ ของอนุสัญญา
แห่งยุโรปฯ และความจ่าเป็นที่จะต้องด่าเนินการเฝ้าสังเกตการณ์ในทางลับ เพื่อคุ้มครองสังคม
ประชาธิปไตยโดยส่วนรวม ศาลเห็นว่ายังไม่เป็นการเพียงพอที่มาตรการเฝ้าสังเกตการณ์จดหมาย (la
mesure de surveillance de la correspondance) ตามที่กฎหมายสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีก่าหนด
นั้นต้องเป็นไปตามเงื่อนไขประการที่สามตามวรรคสองของข้อ ๘ เท่านั้นหากแต่การด่าเนินมาตรการ
ดังกล่าวยังจะต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบควบคุม (l’objet d’un contrôle) อีกด้วย
ในส่วนที่ว่ามาตรการเช่นนั้นเป็นสิ่งจ่าเป็นในสังคมประชาธิปไตย
ต่อวัตถุประสงค์ที่มุ่งหมายหรือไม่นั้น ศาลเห็นว่า ตามกรณีที่ร้องเรียน มาตรการการดักฟังข้อมูลทาง
โทรศัพท์ใช้บังคับกับบุคคลบางประเภทเท่านั้น ซึ่งมีสิ่งที่บ่งบอก (d’indices) ถึงความต้องสงสัยว่าบุคคลนั้น
จะกระท่าหรือได้กระท่าความผิดทางอาญาที่ร้ายแรงต่อความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของรัฐซึ่งต้อง
โทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรการดังกล่าวจะชอบด้วยกฎหมายก็ต่อเมื่อไม่สามารถที่จะได้
ข้อเท็จจริงมาโดยวิธีการอย่างอื่นหรือเป็นการยากอย่างมากที่จะแสวงหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการนั้นได้
๗๗
§ 38 à 40 de l’arrêt Crémieux c/ France, 55 à 57 de l’arrêt Funke.