Page 199 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 199

198      แดศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน



                บทบาทของภาษา เพราะเห็นว่าภาษาไม่สามารถแยกออกจากโลกธรรมชาติ สนใจภาษาในฐานะเป็นส่วนสําคัญ
                ในการสร้างวาทกรรมเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น


                       อย่างไรก็ตามลักษณะที่น่าสนใจของวรรณกรรมวิจารณ์เชิงนิเวศ คือ ความสนใจอย่างมากใน
                การศึกษาการนําเสนอภาพตัวแทนของธรรมชาติและเห็นว่าการนําเสนอภาพตัวแทนของธรรมชาติจะเป็น

                คุณลักษณะสําคัญประการหนึ่งที่ช่วยในการพิจารณาได้ว่า ตัวบทวรรณกรรมหนึ่งๆ เป็นงานเกี่ยวกับธรรมชาติ
                สิ่งแวดล้อมหรือไม่ ดังนั้นนักวรรณกรรมศึกษาบางคนจึงเห็นว่า วรรณกรรมวิจารณ์เชิงนิเวศเป็นการศึกษา

                เพื่อให้มนุษย์เข้าถึงธรรมชาติ หรือบางคนเห็นว่าวรรณกรรมวิจารณ์เชิงนิเวศก็เป็นส่วนหนึ่งในการศึกษา
                วัฒนธรรมด้วยเช่นกัน เพราะวรรณกรรมหรือตลอดจนศิลปะแขนงอื่นๆ เป็นผลผลิตทางวัฒนธรรม ขณะที่บาง

                คนมองว่าวรรณกรรมวิจารณ์เชิงนิเวศมีความเป็นการเมือง เพราะนักวิจารณ์กลุ่มนี้สนใจว่า วรรณกรรมที่
                กล่าวถึงธรรมชาติเป็นหลักนั้นจะนําเสนอปัญหาสิ่งแวดล้อมออกมาได้อย่างไรและมีจุดมุ่งหมายอย่างไร

                       แม้นักวรรณกรรมศึกษาสามารถนําการวิจารณ์วรรณกรรมเชิงนิเวศมาเป็นแนวทางวิเคราะห์
                วรรณกรรมได้หลากหลายดังตัวอย่างข้างต้น แต่แนวคิดสําคัญที่เป็นแก่นแกนจริงๆ ของกระบวนทัศน์นี้คือ

                การมุ่งมองวิธีอธิบายหรือศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติที่ปรากฏในวรรณกรรม


                  การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติที่ปรากฏในวรรณกรรมไทย

                       จุดกําเนิดการวิจารณ์วรรณกรรมเชิงนิเวศสํานึกเริ่มต้นขึ้นในสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาที่ผู้คนเริ่ม

                ตระหนักถึงภาวะวิกฤตเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและภัยทางธรรมชาติมากขึ้น ช่วงปลายทศวรรษปี ค.ศ.1970 เริ่ม
                มีการใช้คําว่า “ecocriticism” ในวงการวรรณกรรมศึกษาจนแพร่หลายในเวลาต่อมา (Buell, 2005: 13)


                       หากจะกล่าวเฉพาะในวงวรรณกรรมไทย การศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ผ่านมานั้น
                เป็นลักษณะการศึกษาวิเคราะห์ตามแนวทางสุนทรียศาสตร์เป็นสําคัญ เช่นการมุ่งมองว่านักประพันธ์เลือกใช้

                ธรรมชาติเป็นกลวิธีที่ก่อให้เกิดความงามทางวรรณศิลป์อย่างไร หรือวิเคราะห์ว่ากวีคนหนึ่งๆ ใช้ธรรมชาติ

                สร้างลักษณะเฉพาะในกวีโวหารของตนอย่างไร (ธัญญา สังขพันธานนท์, 2553: 116-122) หรือศึกษาการสืบ
                ทอดขนบทางวรรณศิลป์โดยสังเกตประเด็นที่เกี่ยวกับธรรมชาติ เช่น การศึกษาของสุจิตรา จงสถิตย์วัฒนา
                (2541:161) เรื่อง “หวังสร้างศิลป์นฤมิต เพริศแพร้ว การสืบทอดขนบกับการสร้างสรรค์วรรณศิลป์ในกวี

                นิพนธ์ไทยสมัยใหม่” มีประเด็นศึกษาที่เกี่ยวกับธรรมชาติ ซึ่งผู้วิจัยสรุปให้เห็นว่า จากการศึกษาการสืบทอด
                และสร้างสรรค์ขนบวรรณศิลป์ในกวีนิพนธ์ไทยร่วมสมัย ธรรมชาติอันเป็นแก่นสําคัญในวรรณคดีไทย ยังคง

                เป็นพลังบันดาลใจแก่กวี และกวียังใช้ธรรมชาติสร้างวรรณศิลป์และอารมณ์สะเทือนใจในระดับต่างๆ ในงาน
                ของตนอย่างมีประสิทธิภาพ
   194   195   196   197   198   199   200   201   202   203   204