Page 179 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 179
178 แดศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน
ภาพที่อุชเชนีบรรยายนั้นเป็นเพียงตัวแทนหนึ่งในความสูญเสียและภาวะที่ประชาชนต้องเผชิญอย่าง
หลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาวะการไร้ซึ่งอาหาร ที่อยู่อาศัย ที่พึ่งพิง หรือแม้แต่ความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตนั้น ถือได้ว่า
เป็นสิ่งที่สงครามหยิบยื่นให้กับมนุษย์ผู้สูญเสียสิทธิในการดํารงชีวิตอย่างปกติสุข โดยไม่มีทางปฏิเสธหรือ
หลีกเลี่ยงแต่อย่างใด
จากกวีนิพนธ์ข้างต้น จะเห็นได้ว่ามีเนื้อหากล่าวถึงการสูญเสียชีวิตของคนในครอบครัว การขาด
แคลนปัจจัยในการดํารงชีวิต ซึ่งตรงกับสิทธิมนุษยชนที่ว่าด้วยสิทธิในการมีอาหาร สภาพร่างกาย ที่อยู่อาศัยที่
มีมาตรฐานเหมาะสมกับการดํารงชีวิตและสิทธิในการมีชีวิต
นอกจากความสูญเสียของประชาชนทั่วไปแล้ว อุชเชนียังได้ใช้กวีนิพนธ์เป็นปากเสียงเพื่อกล่าวแทน
“ทหาร” ผู้เคราะห์ร้าย ต้องเสียชีวิตเนื่องจากสงคราม ดังในกวีนิพนธ์ “ผู้นิทรา” ที่ว่า
เขาทอดกายหงายอยู่บนหญ้านุ่ม ใต้เมฆกลุ่มเกลื่อนกรายขยายแถว
แถบทองทาบอาบริมอิ่มเป็นแนว ดูเพริศแพร้วพลิกผันพรรณราย [...]
กลิ่นดอกไม้ไล้ฆานหวานระรื่น ไม่ฉ่ําชื่นใจเชยเลยสักหน
คงนิ่งพับหลับใหลไม่ติงตน กลางเสียงสนสะอื้นเห่เอกากลัว
ทั้งร่างชืดเย็นเฉียบเยียบสะท้าน กลางแดดจ้านจ้าอยู่ดูน่าหวัว
สีข้างปรี่ปรุแดงด้วยแรงรัว กระสุนชั่วเชือดชัดตัดหัวใจ
(อุชเชนี, 2544: 115-116)
รวมทั้งกวีนิพนธ์ “มิช้ําออกฉะนี้เลย” ที่อุชเชนีใช้เพื่อเป็นกระบอกเสียงกล่าวแทนแม่ผู้สูญเสียลูก
ชาย เพราะต้องไปเป็นทหารในสงคราม ซึ่งการกล่าวเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าอุชเชนีตระหนักถึงสิทธิในเรื่องการมี
ชีวิตของมนุษย์ เช่นในตอนที่ว่า
ยากเย็นเห็นลูกหลัดหลัด กลับพลัดพรากไปใครฝืน
บังคับข่มเราเฝ้ากลืน สะอื้นไห้หาอาลัย
ใครส่งลูกไปไกลแม่ เจ็บแท้เลือดอกฟกไหล
ใครยื่นปืนผาหน้าไม้ เสือกใส่มือเจ้าเข้าณรงค์ [...]
ดั่งใครควักใจไปเชือด โซมเลือดขวัญสิ้นบินแขวน
ลูกร้างห่างไร้ใครแทน ทั่วแดนหาเหมือนลูกยา
ธรณีเขาอื่นหมื่นแสน แร้นแค้นฅนขาดวาสนา
นักหรือจึงล่อทรมา เราเช่นผักปลาทารกรรม
แม้นลูกแม่ตายเพื่อราษฎร์ ยามชาติเอียงนักจักคว่ํา
เลือดหยดอดอยากกรากกรํา มิช้ําอกชอกฉะนี้เลย
(อุชเชนี, 2544: 48-49)