Page 177 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 177
176 แดศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน
เป็นไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา จากนั้นจึงแสดงความคิดเห็นของตนใส่ลงไปในเพลง อย่างไร
ก็ตาม จะพบว่าความคิดเห็นของกวีที่สะท้อนออกมาในเพลงพื้นบ้านนั้นมีความต่างจากความคิดเห็นในกวี
นิพนธ์ในด้านน้ําเสียงของกวี ในกวีนิพนธ์กวีจะถ่ายถอดความคิดเห็นที่เกิดจากปฏิกิริยาและความรู้สึกที่จริงจัง
กวีจะกล่าวถึงความรู้สึกและสภาพความสูญเสียที่พบด้วยน้ําเสียงที่เข้มขรึม จริงจัง หนักแน่น ส่วนในเพลง
พื้นบ้านนั้น กวีจะแสดงความคิดเห็นที่แฝงไปด้วยอารมณ์ขันของตน เนื่องจากเพลงเป็นวรรณกรรมที่สร้างขึ้น
เพื่อตอบสนองและส่งผลให้เกิดอารมณ์ที่มีความสนุกสนานเป็นสําคัญ ดังที่ในเพลงฉ่อยของชาวบ้านที่จังหวัด
นครปฐม ที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในคราวสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ไว้ว่า
ที่แปดธันวามันนาฬิกาตรง ไม่รู้กี่โมงผมยังจํามันไม่ได้
ดูพวกญี่ปุ่นมันทารุณล้นเหลือ ปุริแล่นเรือมาในประเทศไทย
ทหารไทยก็ร้องว่าไอ้เกลอ ขืนเข้ามาจะเย่อเสียให้อ่อนใจ
แต่ทหารญี่ปุ่นทารุณหนักหนา เดินตรงเข้ามาซิไม่กลัวใคร
ทหารไทยร้องว่าฉ่าช้าไอ้เกลอ ขืนเข้ามากูจะเย่อเสียให้เย็นใจ
ยกปืน ป.ต.อ.เข้าไปรอท่าเรือ เห็นต่างชาติท่านไม่เชื่อก็เย็นใจ
ยิงไปดังปังแต่ไปถึงบางปู ก็ผู้คนไม่รู้นึกว่าเกิดภัย
วิ่งกันอลวน ชุลมุนมากมาย มากมาย
(เพลงฉ่อยของชาวบ้านที่จังหวัดนครปฐม อ้างถึงใน สุกัญญา สุจฉายา, 2542: 274)
จากตัวอย่างของเพลงพื้นบ้านดังกล่าว กวีผู้แต่งได้ใช้อารมณ์ขันเป็นเครื่องมือในการวิพากษ์วิจารณ์
สังคมด้วยน้ําเสียงที่เสียดสี ประชดประชันนั่นเอง
จากที่กล่าวไปแล้วข้างต้น จึงแสดงให้เห็นว่ากวีนิพนธ์ไทยสมัยใหม่เป็นกระบอกเสียงเพื่อวิพากษ์สิ่งที่
เกิดขึ้นและปลดปล่อยความอัดอั้นภายในใจของกวีและคนผู้ประสบเหตุ กวีเลือกใช้กวีนิพนธ์ในการแสดง
ความคิดเรื่องสงคราม การสูญเสีย ตลอดจนกล่าวในลักษณะของการตระหนักถึงสิทธิมนุษยชนที่มนุษย์ถูก
ละเมิดเพราะการเกิดสงครามด้วย
(2) กวีนิพนธ์ในฐานะกระบอกเสียงของกวีเพื่อเรียกร้องแทนผู้สูญเสีย
ทัศนะที่กวีมักจะแสดงออกมาต่อเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ นอกจากการใช้กวีนิพนธ์เป็น
กระบอกเสียงเพื่อวิพากษ์และปลดปล่อยความอัดอั้นของตนแล้ว ยังพบว่ามีกวีที่แสดงความชิงชังต่อความ
รุนแรงของสงครามที่นําแต่ความหายนะมาสู่ผู้คนอีกด้วย การตระหนักรู้ของกวีในลักษณะเช่นนี้เองที่สามารถ
ตีความได้ว่า กวีให้ความสําคัญกับสิทธิมนุษยชนอยู่ไม่น้อย เพราะกวีสนใจว่าคนผู้บริสุทธิ์ เหตุใดจึงต้องพบกับ
ชะตากรรมที่เลวร้าย ต้องพบกับความสูญเสียและหายนะเช่นนี้ ในสายตาของกวีสงครามเปรียบเสมือนไฟนรก
ที่คอยแต่จะผลาญชีวิตมนุษย์อย่างไร้ซึ่งความปรานี