Page 175 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 175
174 แดศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน
การที่ น.ม.ส. แสดงความกังวลถึงผลของสงคราม
โลกครั้งที่ 2 ที่จะมีต่อประเทศไทยนั้น เป็นเพราะหากญี่ปุ่น
แพ้สงคราม และไทยถือว่าเป็นประเทศที่ร่วมมือทําสงคราม
กับฝ่ายชนะแล้ว โทษสงครามที่จะได้รับคงรุนแรงเป็นแน่
(ดังเช่นที่ญี่ปุ่นถูกอเมริกาสั่งทิ้งระเบิดปรมาณูลงที่นครฮิโรชิ
มาและนางาซากิ)
อย่างไรก็ตามจากการที่ประเทศไทยขบวนการเสรี
ไทยซึ่งมีบทบาทสําคัญยิ่งในการสนับสนุนฝ่ายพันธมิตรทั้งใน
ด้านทหารและมนุษยธรรม ทําให้ไทยได้รับความสนับสนุน
จากอเมริกาประกาศให้ไทยไม่ใช่ประเทศผู้แพ้สงครามเช่นที่
น.ม.ส. และชาวไทยในขณะนั้นกังวล ระเบิดปรมาณูถูกทิ้งที่เมืองนางาซากิ
(Nagasaki) ประเทศญี่ปุ่น
ความวิตกกังวลของกวีในลักษณะเช่นนี้ เพราะกวี
สามารถคาดการณ์ได้ว่าเมื่อแพ้สงคราม ประเทศไทยอาจต้องได้รับบทลงโทษจากสังคมโลกที่รุนแรง ทั้ง ๆ ที่
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากสงครามนั้นก็มีให้เห็นไม่น้อย ทั้งความสูญเสียในเรื่องชีวิตและทรัพย์สิน กวีจึงกังวล
และทําได้เพียงตั้งคําถาม พร้อมตั้งความหวังว่าจะมีใครสักคนสามารถหาทางออกให้แก่ประเทศชาติได้
นอกจากการใช้กวีนิพนธ์แสดงความคิดเห็นในเรื่องสงครามโลกครั้งนี้ที่เกี่ยวพันโยงใยกับการเมืองใน
ประเทศแล้ว ยังพบว่ามีกวีนิพนธ์ที่กล่าวถึงการเมืองระหว่างประเทศเป็นแก่นของเรื่องด้วย คือ “สงครามและ
สันติภาพ” ของนายปรีดี ซึ่งเป็นนามปากกาของนายปรีดี พนมยงค์ เช่นในความตอนหนึ่งว่า
สงครามโลกครั้งก่อนรอนชีวิต มนุษย์ปลิดสิบกว่าล้านประมาณหมาย
คนเข็ดขามสงครามกันมากมาย จึงตั้งค่ายสันนิบาตชาติประเทือง
เพื่อระงับดับทุกข์สิ้นยุคเข็ญ ให้ร่มเย็นสวัสดีไม่มีเรื่อง
อยู่ร่วมกันสันติสุขทุกบ้านเมือง คอยปลดเปลื้องข้อพิพาทบาดทะลุง [...]
ซ้ํายังมีลูกระเบิดที่เลิศฤทธิ์ ปรมาณูแรงพิษโปรยกระหน่ํา
สงครามโลกลบหายคลายระกํา สหชาติเริ่มนําเป็นองค์การ
เพื่อระงับดับสงครามครั้งสามสี่ ปรารถนาอย่างดีมีแก่นสาร
ให้ชาวชนพ้นทุกข์เรื่องรุกราน แต่จะนานเพียงไหนก็ไม่รู้
(นายปรีดี, 2552: 13)
กวีนิพนธ์ข้างต้นนายปรีดีเขียนขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงราวสิบเดือนเศษ ซึ่งเป็น
เรื่องที่เริ่มมีการกล่าวถึงกันมากขึ้นในช่วงนั้น เพราะเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศในการก่อตั้งองค์การ
สหประชาชาติเพื่อระงับและป้องกันการเกิดสงครามครั้งต่อไปนั้น ดูจะเป็นทางออกที่พึงมีในขณะนั้น เป็น