Page 172 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 172
วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา 171
โฉดไฉนใจมนุษย์มาฉุดชัก ทําหาญหักโหดกระหายหมายฉะเฉือน
ทลายงามเพื่อสงครามย่ามใจเตือน ทลายเรือนทลายรักหลักโลกา
เมื่อทุ่งราบอาบเดือนเหมือนอย่างนี้ เมื่อราตรียังรวยรื่นชื่นนาสา
4
เป็นไปได้หรือนี่ที่มนตรา สงครามฆ่ารักแล้วแคล้วใจฅนฯ
(อุชเชนี, 2544: 72-73)
บทกวีข้างต้น อุชเชนี เลือกใช้คําว่า “มนุษย์” และเน้นถึงความเป็นมนุษย์อีกครั้งด้วยคําว่า “ฅน”
เพราะต้องการเน้นย้ําว่าสงครามเกิดขึ้นเพราะมนุษย์ เกิดขึ้นเพราะในจิตใจของมนุษย์ที่ไร้แล้วซึ่งความรักใน
ความเป็นมนุษยชาติ จิตใจที่มีความขัดแย้ง และหมายต้องการเอาชนะ ซึ่งเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นแล้ว ความ
ขัดแย้งบางอย่างอาจทําให้เกิดความรุนแรงเช่นการทําสงครามตามมา และในที่สุดก็ส่งผลกระทบให้สังคมไร้ซึ่ง
สันติภาพ
นอกจากนี้อุชเชนียังได้บริภาษผู้คนที่ร่วมทําสงครามกันนั้นว่า “กัดกัน” เช่นสัตว์ป่า และจิตใจ
โหดร้ายเช่น “อสูร” อีกด้วย ดังที่ใน “กว่าสบสันต์สุขแท้” ที่ว่า
ทําสงครามฉกาจกัดดั่งสัตว์ป่า แต่หยาบใหญ่ไร้ค่าเมตตาสิ้น
คงแต่ร่างสําอางศักดิ์หักอรินทร์ ส่วนใจกินกลั้วกล้ําเพียงน้ําตา
โลกไร้งาม ความหวัง กระทั่งรัก อกกระอักอั้นโอยเที่ยวโหยหา
หวังอะไรเมื่ออสูรพูนโลกา หวังอะไรเมื่อวิญญาถูกฆ่าฟัน
(อุชเชนี, 2544: 119-120)
ส่วนนายผี ก็ได้บริพารผู้นําในช่วงนั้นไว้ โดยเรียกว่าเป็น “เผด็จการ” ไว้ใน “เท่านั้นนะ เวยอกฮา” ว่า
ผู้เผด็จการมาเกิดประเสริฐสุด ช่างเร่งรุดความเจริญเกินสุขแสน
บีบบังคับปรับปรุงผะดุงแดน จะให้แม้นแม่นพิมานรําคาญใจ
ก็เกิดทุกข์ขุกเข็ญเปนบ้าหลัง ทุกถิ่นทั้งนคราที่อาศรัย
เกิดสงครามลามลุกทุกข์หทัย เจริญในจิตนึกยังลึกลับ
(นายผี, 2541: 180)
การเรียกผู้นําว่า “ผู้เผด็จการ” เป็นคําที่ผู้อ่านในสมัยนั้นทราบได้ว่าเป็นใคร โดยที่กวีไม่จําเป็นต้อง
เอ่ยนามของท่านผู้นั้น แต่เมื่อกาลเวลาผ่านพ้นไปและเหตุการณ์ต่างๆ ของสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้คลี่คลาย
ไปสู่จุดจบในที่สุดแล้วนั้น แต่อารมณ์ความรู้สึก การมีสํานึกร่วมของกวีที่มีต่อสงครามครั้งนี้ยังไม่จบสิ้นไปด้วย
4 การเน้นข้อความในบทความนี้เป็นการเน้นของผู้เขียนบทความ