Page 170 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 170

วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา   169



                     กวีและพบว่ามีวรรณกรรมไม่น้อยที่กล่าวถึงสงครามและความคิดเห็นอันสืบเนื่อง  อาทิ กวีนิพนธ์สงครามที่
                     กล่าวถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 ของกวีร่วมสมัยกับเหตุการณ์ดังกล่าว อาทิ กาพย์เรื่อง “ต้อนรับทหารไทย”

                     พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อทหารไทยกลับจาก
                     ราชการสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือ บทกวีของครูเทพ บทที่ชื่อว่า “เศรษฐเสนา สู้ เศรษฐสงคราม” “ภัยโลก”
                     “โจกโลก” “ชัยก่อ กับ ชัยทําลาย” “พฤษภ 2479” “ศานติสมัย” “อุดมคติ กับ สัมฤทธิคติ” “ไข้สันนิบาต”

                     “สงครามจําแลง” “ชําร่วยโลก” “เงาะถอดรูป” เป็นต้น

                            ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  จะพบว่านักเขียนหรือกวีมีแนวคิดในการเขียนวรรณกรรมการ
                     สงครามและ/หรือกวีนิพนธ์สงครามที่พัฒนาและแตกต่างไปจากเดิมมากขึ้น กล่าวคือ กวีไทยหลายคนแทบจะ

                     ไม่ได้กล่าวถึงภาพสงครามในลักษณะของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ หรือเรื่องอิงพงศาวดารหรือมหากาพย์
                     ภาพความกล้าหาญของพระมหากษัตริย์ในการสงคราม รวมทั้งสงครามที่เป็นเหตุการณ์ อนุภาค หรือตอน

                     หนึ่งของเรื่องราวในวรรณกรรมอีกต่อไป หากแต่กวีร่วมสมัยได้ใช้กวีนิพนธ์เป็นสื่อแสดงเจตจํานง เป็นพื้นที่ใน
                     การแสดงความคิดเห็น รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการแสดงปฏิกิริยา ตลอดจนแสดงความรู้สึกต่าง ๆ ที่มีต่อภาวะ

                     ที่เกิดขึ้นต่อประชาชนในคราวสงครามอย่างชัดเจน กวีนิพนธ์ในไทยสมัยใหม่นี้ จึงถือได้ว่าเป็นกวีนิพนธ์
                     สงครามตามความหมายของ “War Poetry” ตามแบบสากลและมีลักษณะของวรรณกรรมที่กล่าวถึงสงคราม

                     ที่มีความเป็นสากลมากขึ้นด้วย

                            ผู้เขียนบทความจึงสนใจว่ากวีนิพนธ์ไทยสมัยใหม่ที่กล่าวถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น กวีกล่าวถึง
                     สงครามในลักษณะเช่นใด กวีอาจมองสงครามโลกครั้งนี้ในมุมของตนเอง หรืออาจมองจากมุมของผู้สูญเสีย ใน

                     ขณะเดียวกันผู้เขียนจะวิเคราะห์ในประเด็นเรื่องสงครามและสันติภาพที่มีความสัมพันธ์กับสิทธิมนุษยชน เพื่อ
                     แสดงให้เห็นว่าสงครามเป็นปัจจัยสําคัญที่ก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอีกด้วย


                       สงครามโลกครั้งที่ 2 ในกวีนิพนธ์ไทยสมัยใหม่


                                                                                              1
                            เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มก่อตัวขึ้นในปี ค.ศ.1939 ซึ่งตรงกับปี พ.ศ.2482 นั้น  ในช่วงแรก
                     สงครามยังคงจํากัดตัวอยู่ในยุโรป แอฟริกาและดินแดนตะวันออกกลางเป็นส่วนใหญ่ ยังมิได้แพร่หลายลุกลาม

                     เข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่การที่ญี่ปุ่นได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเยอรมนีและอิตาลี ซึ่งอยู่ฝ่ายอักษะ
                     (Axis Powers) เป็นเหตุให้ในไม่ช้าไม่นานประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงถูกดึงเข้าสู่สงครามด้วย

                     ต่อมาไม่นานรัฐบาลไทยก็จําต้องเข้าร่วมสงครามโลกครั้งนี้ด้วยการที่ต้องจํายอมให้ญี่ปุ่นเดินทัพผ่านประเทศ


                            1  สงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุโรปเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2482 เมื่อเยอรมนีโดย อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) ได้ยาตรา
                     ทัพบุกโปแลนด์และอีกหลายประเทศในยุโรป ส่วนสถานการณ์ในทวีปเอเชียนั้นก็คือ ช่วงที่ญี่ปุ่นเริ่มใช้นโยบายชาตินิยมและก่อ
                     สงครามมหาเอเชียบูรพาขึ้นที่จีนและเกาหลี และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ประเทศไทยเข้าไปมีส่วนร่วมกับสงคราม.
   165   166   167   168   169   170   171   172   173   174   175