Page 109 - แด่ศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน : วรรณกรรมกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 109
108 แดศักดิ์ศรีเสมอกันทุกชั้นชน
ตะเภาทองตอบกลับนางจระเข้ทั้งสองด้วยน้ําเสียงประชดประชัน
ว่าตนคงต้องการเป็นเมียจระเข้มาก ถึงกับคิดผิดตามมาด้วย ผัวของเจ้าก็จง
พาไปอยู่ด้วยกัน ตัวข้าเองที่หยาบช้าชั่วร้ายยิ่งนัก หากพิจารณาน้ําเสียงและ
คําพูดของตะเภาทองอย่างถี่ถ้วนแล้วจะพบว่า คําพูดที่ตะเภาทองว่าตนเอง
เป็น “กาลี” นั้นสะท้อนไปสู่ตัวผู้ฟัง คือ สื่อไปถึงฝ่ายตรงข้ามว่าพวกจระเข้
ต่างหากที่เป็นกาลีหรือชั่วร้ายเป็นเสนียดจัญไร มิใช่มนุษย์เช่นนางที่ผิด
เผ่าพันธุ์ จากการเปรียบเปรยของตะเภาทองที่กล่าวมานี้แสดงให้เห็นว่า
มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เห็นว่าตนสูงส่งเหนือสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นทั้งหมด
เมื่อตะเภาแก้วกับตะเภาทองพบว่าไกรทองพาวิมาลามาอยู่ในสวน
ภาพจาก 100 ปี เหม เวชกร (2545)
ก็เข้าไปต่อว่าและทําร้ายร่างกาย น่าสังเกตว่าตัวละครหญิงที่เป็นมนุษย์มัก
ใช้ถ้อยคําที่มีลักษณะของการแบ่งแยกเผ่าพันธุ์เพื่อด่าทอฝ่ายตรงข้ามที่เป็นเผ่าพันธุ์อื่นอยู่เสมอ
ถ้าเป็นคนอื่นไกลน้องไม่ว่า จะร่วมเรียงเคียงหน้าก็ควรที่
นี่มันชาติทรชนคนไพรี เห็นดีหรือเจ้าเอามาไว้ […]
แต่ผัวกุมภีล์แล้วมิหนํา ยังแถมซ้ํามนุษย์เข้าเป็นสอง
ไสหัวลงไปเสียท้องคลอง เดียรฉานจองหองไม่เจียมตัว
(พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย, 2545: 320)
ตะเภาแก้วกับตะเภาทองต่อว่านางจระเข้วิมาลาว่าเป็นชาติพันธุ์ที่ชั่วร้าย ทั้งยังเป็นศัตรูของมนุษย์
ไกรทองจึงไม่ควรนําวิมาลามาเป็นเมีย ที่น่าเจ็บแสบคือนางมนุษย์ทั้งสองไล่วิมาลาให้ลงคลองกลับถิ่นกําเนิด
ของตนไปเสีย และทิ้งท้ายไว้ว่าวิมาลาเป็นสัตว์เดรัจฉานแล้วยังมาทําจองหองไม่เจียมตัวอีก ดังว่านางจระเข้
วิมาลาไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่ร่วมโลกกับนางมนุษย์ทั้งสองนี้ได้ จากคําพูดของตะเภาแก้วตะเภาทองสื่อได้ว่ามนุษย์
เป็นสิ่งมีชีวิตที่ภาคภูมิใจในเผ่าพันธุ์ตนเป็นอย่างมากจึงแบ่งแยกเผ่าพันธุ์กับสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่เสมอ
ฝ่ายนางจระเข้ก็ไม่ยอมให้ใครมาดูถูกเผ่าพันธุ์ตนจึงใช้วิธีโต้กลับโดยอ้างถึงคุณสมบัติของนางมนุษย์
สองพี่น้องที่ไม่ดีงามนัก
ขึ้นหน้าว่าเป็นเจ้าผัว อันจะให้กูกลัวอย่าสงสัย
ถึงกูเป็นชาติกุมภีล์ไซร้ ก็ไม่โฉดโหดไร้เหมือนมึงนี้
อีมนุษย์อุบาทว์ชาติชั่ว พี่น้องร่วมผัวน่าบัดสี
ขาดสามสี่วันไม่ทันที เป็นกุลํากุลีทะยานใจ
(พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย, 2545: 322)