Page 53 - ภาษาเพศในสังคมไทย : อำนาจ สิทธิและสุขภาวะทางเพศ
P. 53

36   ภาษาเพศในสังคมไทย: อํานาจ สิทธิ และสุขภาวะทางเพศ

                               เห็นไดหรือไมวา สังคมมองเห็นเกยในฐานะของผูชายที่ปฏิเสธความเปนชาย
                               จึงใชคําอธิบายพฤติกรรมทางเพศของเกยคําเดียวกับที่ใชกับผูหญิง
                                     ดวยการใหคุณคากับเรื่องเพศภาวะที่ตางกันอยางเปนสองระดับ ที่

                               สะทอนผาน “ความเจาชู” หรือการที่สังคมใหอํานาจกับผูชายเปนใหญในการ
                               ควบคุมเรื่องเพศทั้งของตนเอง และของคูที่เปนผูหญิงนี้ ผลที่เกิดตามมาคือ

                               ภาวะเสี่ยงตอปญหาสุขภาพทางเพศตางๆ ทั้งปญหาเรื่องการที่ผูหญิงถูกกระทํา
                               ความรุนแรงทางเพศ ถูกลอลวง หรือถูกบังคับใหมีเพศสัมพันธ เพื่อตอบสนอง
                               ความตองการของผูชาย ปญหาเรื่องการทองไมพรอม และความเสี่ยงตอการรับ
                               เชื้อโรคติดตอทางเพศสัมพันธตางๆ และเอชไอวี/เอดส ปญหาเรื่องอคติและ

                               การเลือกปฏิบัติตอการจัดบริการทางดานสุขภาวะทางเพศใหกับบุคคลที่มี
                               เพศสัมพันธกับเพศเดียวกัน กลาวคือ ในดานหนึ่งแมจะมีการตั้งสถานบริการ
                               สุขภาพที่ใหบริการดานสุขภาพทางเพศกับชายรักชายขึ้นมาโดยเฉพาะ แต

                               ในอีกดานหนึ่งก็ใหขอมูลตอกย้ําอคติทางสังคมที่มีตอบุคคลรักเพศเดียวกันวา
                               ชายรักชาย หรือชายที่มีเพศสัมพันธกับชาย เปนกลุมเสี่ยงที่ตองเฝาระวัง เพราะ
                               เปนกลุมที่แพรกระจายเอชไอวี/เอดส ดวยการมีเพศสัมพันธแบบเปลี่ยนคูนอน
                               ไมซ้ําหนา ในทางกลับกันการที่สังคมไมมีขอมูลที่มากพอเกี่ยวกับภาวะสุขภาพ

                               ทางเพศ หรือไมไดใสใจกับพฤติกรรมทางเพศของผูหญิงที่มีเพศสัมพันธกับ
                               ผูหญิง ก็ทําใหบุคคลกลุมนี้ถูกตัดออกไปจากระบบบริการสุขภาพทางเพศโดย
                               ปริยาย ไมวาพวกเธอจะมีพฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยงหรือไมก็ตาม

                                     จาก “ขุนแผน” ถึง “วันทอง (สองใจ)” ทั้งหมดนี้สะทอนใหเห็นภาพมุมมอง
                               ทัศนคติ และการใหคุณคา ตลอดจนสถานะของความเปนหญิงความเปนชาย
                               ในสังคมไทยที่แตกตางกัน ตราบใดก็ตามที่คนในสังคมยังคงไมพิจารณา
                               ใหเห็นถึงระบบคุณคาที่ไมเทาเทียมทางเพศ ดังตัวอยางที่สะทอนใหเห็นจาก

                               นัยของคําตางๆ ที่กลาวมานี้ บุคคลไมวาจะมีอัตลักษณทางเพศภาวะ หรือ
                               อัตลักษณทางเพศวิถีแบบไหนก็ตาม ก็ยอมตองตกอยูภายใตความเสี่ยงอันเกิด
                               จากความไมเทาเทียมทางเพศ และยังคงตองเผชิญกับปญหาเรื่องความ

                               สัมพันธในแบบเดิมๆ อยูตอไปอยางไมมีวันสิ้นสุด




                                                         สุไลพร ชลวิไล
   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58