Page 266 - ภาษาเพศในสังคมไทย : อำนาจ สิทธิและสุขภาวะทางเพศ
P. 266

บทสงทาย  251

                               กรอบการมีความสัมพันธแบบผัวเดียวเมียเดียว โดยใหความสําคัญกับความรัก
                               เปนพื้นฐาน และระบบคิดเรื่องเพศเชนนี้ดํารงอยูโดยไดรับการสนับสนุนค้ําจุน
                               จากหลักคําสอนทางศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีปฏิบัติทางสังคม และชุดคํา

                               อธิบายทางดานวิทยาศาสตรสุขภาพทั้งดานการแพทย และจิตวิทยา
                                     ดวยเหตุนี้บุคคลที่ “คิดตาง” มีอัตลักษณทางเพศที่ “ตาง” หรือมีเพศวิถี
                               ที่แตกตางจากระบบความคิดความเชื่อเรื่องเพศกระแสหลักดังที่กลาวมานี้ ก็จะ
                               ถูกตัดสินวาเปนผูที่มีเพศวิถีนอกกรอบ ผลก็คือนอกจากสังคมจะไมใหการ

                               ยอมรับแลว ยังอาจตีตราวาเปนผูมีความผิดปกติ เบี่ยงเบนทางเพศ เปนปญหา
                               สังคมที่จําเปนตองดําเนินการแกไข หรือลงโทษเพื่อไมใหเปนตัวอยางที่ไมดี
                               สําหรับเยาวชนในสังคม

                               ความเปนกลางและความเปนธรรมดาในภาษาเพศ
                                     การพูดเรื่องเพศเปนเรื่องที่พูดกันในชีวิตประจําวันของผูคนและหลายๆ
                               คํามีความหมายเปนกลาง ไมไดเปนสิ่งสกปรก หยาบคาย หรือกดทับเพศใด

                               เพศหนึ่ง เชน คําวา เอากัน อึ๊บกัน ปกัน ซึ่งเปนคําพูดในภาษาไทยที่ใชกัน
                               อยางไมเปนทางการในหมูเพื่อนฝูงและมีความหมายถึงการยินยอมพรอมใจกัน
                               ทั้งสองฝาย หรือแมกระทั่งคําวา มีเซ็กส ซึ่งเปนคําที่มักถูกใชในความเปนทาง
                               การมากกวาก็เปนคําที่เปนกลางและมักหมายถึงความยินยอมพรอมใจ คําชุด

                               ดังกลาวขางตนจะแตกตางกับกลุมคําที่มีความหมายเดียวกัน แตมีนัยยะความ
                               หมายซอนความไมเทาเทียมกันทางเพศอยู ซึ่งไดแก ไดเสียกัน หรือเสียตัว ซึ่ง
                               ผูชายมักเปนผูได หรือไมเสียชื่อเสียง  ขณะที่ฝายหญิงจะเปนฝายเสียหายใน
                               ความสัมพันธทางเพศของตน

                                     ในกลุมคําสรีระทางเพศของผูหญิงก็เชนกัน ทีมวิจัยไดรวบรวมคําตางๆ ที่
                               มีความหมายเปนกลางๆ ไดแก จิ๋ม เคย เปด (สองคํานี้ใชในภาคใต) แมแตคําวาหี
                               จะเปนคําที่ดูเปนกลาง และไมหยาบคายเลยเมื่อชาวชนบทใชคํานี้สื่อสารกัน
                               หรือในหมูกะเทยก็ใชคํานี้เชนกัน เชน กะเทยจะถามคนที่ไปผาตัดแปลงเพศมา

                               วา “ขอดูหีเธอหนอย” เปนตน แมกระทั่งคําวา “กิ๊ก” ซึ่งหมายถึงคูความสัมพันธ
                               คนอื่นๆ ที่ไมใชคูถาวรของตน  การใชคํานี้แพรหลายบงบอกการยกระดับใหการมี
                               คูความสัมพันธแบบฉาบฉวย หรือการมีคูความสัมพันธมากกวาหนึ่งทั้งหญิงและ
                               ชายเปนเรื่องปกติธรรมดานั่นเองซึ่งมีการใชกันแพรหลายมากขึ้นในทุกเพศและวัย


                                                  สุไลพร ชลวิไล, พิมพวัลย บุญมงคล
   261   262   263   264   265   266   267   268   269   270   271