Page 399 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 399

โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ :1111
                                                                    กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ | 341

               ส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสในการเข้าถึงการคุ้มครองทางสังคม โดยคิดว่า สิ่งที่รัฐน าไปให้ถึงบ้านนั้นเพียงพอแล้ว ทั้งที่

               ในความเป็นจริงแล้ว ผู้สูงอายุมีสิทธิอื่น ๆ อีกมากมายที่รัฐมีนโยบาย หรือเตรียมพร้อมไว้รองรับสังคมผู้สูงอายุ
                     (5) การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของผู้สูงอายุในปัจจุบัน ผู้สูงอายุมีความไม่เชื่อใจ หวาดระแวง กลัว
               จึงไม่กล้าน าตนเองเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ผู้สูงอายุมักคิดว่า
               ไม่อยากให้คนภายนอกรู้ ไม่อยากให้ลูกถูกจับ หรือไม่อยากให้คนมองตนเป็นพ่อแม่ที่ไม่ดี จึงไม่พาตนเองเข้าสู่
               กระบวนการยุติธรรม


                     ประเด็นที่ 4 ข้อเสนอแนะทางด้านนโยบาย กฎหมาย เพื่อให้รัฐจัดให้มีการคุ้มครองสิทธิของผู้สูงอายุ
               ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                     (1) เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นบุคคลที่มีลักษณะพิเศษ ต่างกับบุคคลประเภทอื่น ๆ ที่มีกฎหมายบัญญัติไว้
               เป็นการเฉพาะ ดังนั้นเพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุเป็นผู้ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบและได้รับความเสมอภาคในสังคม รัฐควรที่
               จะมีการปรับปรุงกฎหมาย หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ ให้ง่ายต่อความเข้าใจ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รู้ว่า
               มาตรการดังกล่าวผู้สูงอายุจะต้องด าเนินการสิ่งได้บ้าง เป็นล าดับไป ควรให้การเขียนที่เข้าใจง่าย มีการก าหนด
               ขั้นตอนเป็นล าดับ และค านึงถึงผลประโยชน์ของผู้สูงอายุเป็นส าคัญ

                     (2) รัฐควรจะจัดให้มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ของภาครัฐที่เข้าไปเฝ้าระวังในการคุ้มครองสิทธิหรือรักษาสิทธิ
               ประโยชน์ของผู้สูงอายุอย่างเป็นรูปธรรม และให้ครอบคลุมทั้งประเทศเช่นเดียวกับโครงการจัดท า Care giver
               หรือ Care manager ในการเฝ้าระวังเรื่องสุขภาพของกรุงเทพมหานคร

                     (3) เรื่องการคุ้มครองสิทธิในการจ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุนั้น เป็นเรื่องสวัสดิการที่ทางภาครัฐจัดให้
               ซึ่งผู้สูงอายุทุกคนจะต้องได้ แต่ระเบียบในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง กล่าวคือ การให้เบี้ยยัง
               ชีพให้เฉพาะผู้สูงอายุที่ไปขึ้นทะเบียนในภูมิล าเนาเท่านั้น ผู้สูงอายุบางส่วนที่มีการโยกย้ายภูมิล าเนา หรือ
               ผู้สูงอายุที่มีภูมิล าเนาอยู่ในเรือนจ า ไม่ทราบหลักเกณฑ์ ไม่ได้ไปขึ้นทะเบียน ณ ภูมิล าเนาที่อยู่ใหม่ ก็จะไม่ได้รับ
               เบี้ยยังชีพ ซึ่งในปัจจุบัน ยุค 4.0 นี้ การท างานของทางภาครัฐควรจะทันสมัย เป็นระบบดิจิตอล ออนไลน์

               การจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ ก็ควรที่จะต้องตรวจสอบ และมีการแจกจ่ายให้ทั่วถึงและเสมอภาคทั่วทุกคน
                     (4) เนื่องจากผู้สูงอายุนั้น มีด้วยกันหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับว่าจะแบ่งแยกโดยใช้หลักเกณฑ์ใด
               เรื่องอายุ เรื่องสุขภาพหรือความสามารถ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ท าให้ผู้สูงอายุถูกจัดออกเป็นหลายกลุ่ม และควรที่จะต้อง

               มีกลไกกฎหมาย ใช้บังคับเพื่อป้องกันและคุ้มครองสิทธิของผู้สูงอายุแต่ละกลุ่มอย่างแตกต่างกันด้วย เช่น
               ผู้สูงอายุที่มีภาวะติดเตียงหรือต้องการที่พึ่งพิง ควรจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกับผู้พิการโดยได้รับการรับรองจาก
               แพทย์ หรือผู้สูงอายุที่ยังมีความสามารรถในการประกอบอาชีพ หารายได้เลี้ยงดูตนเองได้ก็ควรที่จะจัดอยู่ในอีก
               กลุ่มหนึ่ง
                     (5) สิ่งส าคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุและผลักดันการแก้ไขปัญหาการเข้าถึง

               กระบวนการยุติธรรมของผู้สูงอายุให้เหมาะสมคือ การร่วมมือ การบูรณาการท างานของทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะ
               เป็นส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่นหรือรัฐวิสาหกิจ กลไกการบูรณาการจะเป็นเหมือนเครือข่ายการท างาน
   394   395   396   397   398   399   400   401   402   403   404